สาวติดโควิด พร้อมลูกน้อย 2 คน นอนรอเตียงที่บ้าน ย่านคลองตันเหนือ กทม. นานนับ 10 วัน แต่ไร้ความหวัง ได้เพียงคำตอบ “เตียงเต็ม-ต้องรอ” ล่าสุดโทรไปบ้านเกิด ที่ จ.เพชรบูรณ์ ขอกลับไปรักษาตัว แต่ถูกปฏิเสธ วอนผู้ว่าฯ-หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กราชื่อ “อ้อมแอ้ม เมืองมะขามหวาน” โพสต์ข้อความระบุว่า “สวัสดีค่ะ..ขอรบกวนใครพอจะหาเตียงให้ได้บ้างไหมค่ะ เพราะตอนนี้ครอบครัวหนูมีคนติดเชื้อโควิด 3 คนค่ะ เป็นแม่กับลูกค่ะ ใน 3 คนนี้ มีเด็ก 2 คนค่ะ อายุ 7-8 ขวบ นอนรอเตียงยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเลยค่ะ ติดต่อไปทุกๆที่ทุกทางแล้วแล้วค่ะ ที่บ้านมีคนชราและคนอื่นๆอยู่ด้วย ที่ยังไม่ติดเชื้อ กักตัวอยู่ที่บ้านแล้วกลัวคนอื่นจะติดไปด้วยค่ะ”
“ได้โปรดถ้าใครพอจะช่วยหาเตียงให้เรา 3 แม่ลูกไปรักษาตัวได้ ขอรบกวนหน่อยนะค่ะ ติดต่อมาที่เบอร์ 082-5104453 ที่อยู่ 466/15 ซ.สุขุมวิท49 (กลาง) แยก18 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. หรือทางเฟซบุ๊ก “อ้อมแอ้ม เมืองมะขามหวาน” ขอบคุณค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ”
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง น.ส.พรพิมล จูจันทร์ อายุ 28 ปี (ผู้โพสต์) ซึ่งเป็นชาว ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 466/15 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่งเจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ที่บ้านมีผู้อาศัยรวมกัน 10 คน ตอนนี้มีลูก 2 คน อายุ 7 ขวบ กับ 8 ขวบ และตนที่ติดโควิดได้ 10 วันแล้ว แต่สามีกับคนอื่นตรวจแล้วไม่พบเชื้อ ทางรพ.เพชรเวช ที่ตนไปตรวจเชื้อแจ้งว่าเตียงรักษาไม่พอ โดยให้รอ ทำให้ตนและลูกๆต้องนอนรอความหวังการช่วยเหลืออยู่ที่บ้าน จนถึงวันนี้เหมือนรอคอยอย่างคนหมดหวัง เพราะคำตอบที่ได้ คือ เตียงเต็มให้รอ
“ตนมีอาการไอ ลิ้นไม่รู้รส จมูกไม่รับกลิ่น วันนี้อยากพาลูกสาวทั้ง 2 คน กลับมารักษาตัวที่ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด แต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่แจ้งว่า ถ้าจะเดินทางกลับมารักษาตัวที่ จ.เพชรบูรณ์ จะต้องเป็นผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาเป็นคนใน จ.เพชรบูรณ์ เท่านั้น ทางจังหวัดถึงจะรับ ซึ่งตนได้ย้ายทะเบียนบ้านออกไปอยู่กับสามี ที่กรุงเทพฯ ได้กว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนได้พยายามติดต่อไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว แต่คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม คือ เตียงรักษาไม่ว่าง วันนี้ตนสงสารลูกทั้ง 2 อยากได้แค่เตียงที่ รพ.สนามในการรักษาตัวก็ยังดี” น.ส.พรพิมล
จากการสอบถาม นายไพโรจน์ จูจันทร์ อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อ เพิ่งจะทราบว่าลูกสาวและหลานๆติดเชื้อโควิด เพราะเจ้าตัวมีสุขภาพไม่ดี ลูกๆจึงปิดเรื่องเอาไว้ เพราะกลัวถ้าพ่อรู้อาการป่วยจะทรุดหนัก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกโรงพยาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ตอนนี้ตนอยากจะขอกราบเรียน ขอความอนุเคราะห์ เพราะว่าตอนนี้ลูกตนได้ไปทำงานที่ กทม. แล้วติดโควิดพร้อมหลานสาวอีก 2 คน อยากจะขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย เพราะตนนั้นเป็นผู้พิการ จะเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบาก
ด้าน น.ส.ลัดดาวรรณ จูจันทร์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวผู้ป่วย เล่าว่า น้องสาวได้ติดต่อหน่วยงานในกรุงเทพฯแล้ว กลับได้คำตอบว่ ไม่มีที่พักไม่มีเตียง น้องจึงโทรมาขอความเหลือกับตนที่อยู่ จ.เพชรบูรณ์ โดยน้องต้องการจะกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด ตนจึงได้ไปติดต่อ อสม. ผู้ใหญ่ในพื้นที่ ได้ให้คำแนะนำและให้เบอร์ติดต่อมา และได้แนะนำให้ติดต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ตนจึงอยากที่จะเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกอำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะว่าตอนนี้ในกรุงเทพฯไม่มีที่ไหนรักษาให้เลย อยากจะวิงวอนให้รับน้องสาวและหลานๆกลับมารักษาด้วย’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook