จังหวัดเพชรบูรณ์เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อออกมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 ) ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข ประกอบกับความไม่ พอเพียงของสถานที่ที่รองรับผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล ทำให้ผู้ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับเข้ามารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลประจำอำเภอมากขึ้น จนทำให้จำนวนเตียงที่เตรียมไว้ ไม่เพียงพอ จึงต้องเตรียมสถานที่เปิดเป็นโรงพยาบาลสนามในระดับอำเภอ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการ ยังหายใจได้ปกติ ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อโควิด-19 ได้ประกาศพื้นที่ให้จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงต้องกำหนดมาตรการการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ให้สอดคล้องกับมาตรการตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 24) และจำเป็นต้องขอความร่วมมือกับประชาชนร่วมกันในการปฏิบัติตน ตามมาตรการ คำสั่ง ประกาศ ที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัด

จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเพชรบูรณ์ ดังนี้

1. มาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน 1) ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่พักอาศัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ งดการเดินทางเข้าไปในจังหวัดที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ในช่วงระยะเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 2) ขอความร่วมมือประชาชน ที่มาจาก กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา งดการเดินทางเข้ามา ในจังหวัดเพชรบูรณ์ในช่วงระยะเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

2. การเตรียมการรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้านการสาธารณสุข ให้ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงาน อื่นที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรองรับการตรวจคัดกรองและการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19

สำหรับประชาชนในพื้นที่หรือประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดที่มีความประสงค์ขอเข้ารับการคัดกรองและเข้ารับการ ตรวจรักษาพยาบาลในพื้นที่แต่ละอำเภอ ดังนี้

1) ประเมินและสำรวจความพอเพียงของครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็น เพื่อการคัดกรองและการรักษาพยาบาลให้เพียงพอกับขีดความสามารถ

2) การประเมินผู้ป่วยเพื่อวางแผนในการจัดการผู้ป่วยระหว่างรอเข้ารับการรักษา แบบ ผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือระหว่างรอครบกำหนด 14 วัน หรือหลังจากจำหน่ายจากโรงพยาบาล หรือ สถานที่รัฐ จัดให้ก่อนครบกำหนด ในโรงพยาบาลสนาม หรือกลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง (Home Isolation) หรือการดูแล ผู้ป่วยในชุมชน (Community Isolation)

3) สำหรับในอำเภอใด ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเกินขีดความสามารถในการ รองรับผู้ติดเชื้อไวรัส-19 เพื่อการรักษาในโรงพยาบาลทั่วไปหรือโรงพยาบาลชุมชน ให้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม พร้อมกับการจัดเตรียมครุภัณฑ์ วัสดุทางการแพทย์ สิ่งอุปโภค บริโภค สำหรับผู้ป่วย ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลสนามหรือผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานใน โรงพยาบาลสนาม

3. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนมาตรการคำสั่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ทุกราย โดยเฉพาะการควบคุมอย่างใกล้ชิดสำหรับผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาในจังหวัดในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เกี่ยวกับการที่ให้เจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองสถานที่พัก แจ้งข้อมูลผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือผู้นำชุมชนในพื้นที่ ณ จุดคัดกรองบริเวณที่ตั้งของที่ทำการ ผู้ใหญ่บ้าน หรือจุดคัดกรองในพื้นที่ที่ผู้นำ ชุมชนจัดให้เป็นจุดคัดกรอง ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน ก่อนที่ผู้เดินทางจะได้เดินทางเข้ามาในหมู่บ้านหรือชุมชน และการไม่แจ้งรายงานตัวพร้อมแสดงใบรับรองการได้รับวัคซีน หรือผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือผู้นำชุมชนในพื้นที่ ณ จุดคัดกรองบริเวณที่ตั้งของที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หรือจุดคัดกรองในพื้นที่ที่ผู้นำชุมชน จัดให้เป็นจุดคัดกรอง ทันทีที่เดินทางมาถึงภูมิลำเนาหรือที่สถานที่ที่มาถึงในชุมชน เนื่องจากมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการให้ชุมชนรับรู้และมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับ กลุ่มประชาชนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเพชรบูรณ์ และมีโอกาสสูงมากที่จะนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่กระจายเชื้อต่อบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวและประชาชนในชุมชน

………………………………………………