จากเหตุการณ์คนร้ายหญิงบุกเดี่ยวชิงทองคำหนัก 2 บาท จากร้านทองโชคชัย กลางตลาดพุเตย หมู่ 2 ตำบลพุเตย อำเภวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านทองเผลอจึงได้คว้าสร้อยวิ่งออกจากร้านมาขึ้นรถยนต์เก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุแล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าเตรียมกบดานที่บ้านแฟนซึ่งอยู่ที่จังหวัดอยุธยา สุดท้ายทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหวจึงได้ให้ญาติพาเข้ามอบตัว สารภาพว่าตนเองตกงาน ไม่มีเงินใช้หนี้นอกระบบ ขณะที่ของกลางอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด วันนี้ ที่ 2 กันยายน 2564 พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ผลนาค ผกก.สภ.พุเตย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. ถึงเวลา 12.50 น.ที่ผ่านมาในขณะที่นางพรรณ วงศ์ตระกูลชัย ผู้เสียหายกำลังขายทองอยู่ร้านทองโชคชัย ได้มี น.ส.แคท (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาในร้านคนเดียวแล้วทำทีเลือกซื้อทองคำรูปพรรณต่างๆ จากนั้นได้เลือกแบบลายทองได้แล้วจำนวน 2 เส้นเป็นสร้อยคอจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท และสร้อยข้อมืออีกจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท รวม 2 เส้น น้ำหนักรวม 2 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 56,600 บาท
ซึ่ง น.ส.แคท ได้ขอเลขบัญชีธนาคารของนางพรรณฯ ผู้เสียหาย แต่ นางพรรณฯ บอกว่าไม่มี ก่อนที่ น.ส.แคท จะออกอุบายบอกขอออกไปกดเงินสดมาให้ สักประมาณ 10 นาที น.ส.แคท ได้เดินกลับเข้ามาที่ร้านทอง นางพรรณฯ จึงได้หยิบทองคำรูปพรรณที่เลือกไว้จำนวน 2 เส้นมาวางบนตู้กระจก จากนั้น น.ส.แคท ได้คว้าเอาทองรูปพรรณที่เลือกไว้ทั้ง 2 เส้น แล้ววิ่งหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านซึ่งเปิดอยู่ทั้ง 2 ข้างวิ่งไปขึ้นรถยนต์เก๋งสีดำ หมายเลขทะเบียน กน 3784 พระนครศรีอยุธยา ที่จอดไว้อยู่ริมถนนหน้าร้านขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอศรีเทพอย่างรวดเร็ว
จึงให้ญาติพาเข้ามอบตัว พร้อมสารภาพอับจนหนทางไม่มีเงิน ตกงาน และมีภาระหนี้สิน ที่สำคัญคือตนไม่มีเงินจ่ายหนี้นอกระบบ ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงได้วางแผนลงมือก่อเหตุครั้งนี้เพียงคนเดียว เพื่อหวังนำเงินไปใช้หนี้ดังกล่าว ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.พุเตย ได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการกระทำความผิด การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม’>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook