วันที่ 9 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 02.00 น. นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหล่มเก่า ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลตาดกลอย ว่า มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเสียหายหลายหลังคาเรือน จึงได้สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลตาดกลอย มูนิธิร่วมกตัญญูกกไทรหล่มสัก เข้าให้ความช่วยเหลือ จากการสำรวจเบื้องต้นมีราษฎรได้รับผลกระทบในพื้นที่ตำบลตาดกลอย จำนวน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1,3,4 และ 8 ประมาณ 100 หลังคาเรือน ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ซึ่งอำเภอหล่มเก่า องค์การบริหารส่วนตำบลตาดกลอย กองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 มูลนิธิร่วมกตัญญูกกไทรหล่มสัก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายต่อไป
เพชรบูรณ์อ่วม! ฝนตกหนัก ลำน้ำสาขา ใน ‘2 ตำบล’หล่มเก่า ทะลักท่วมบ้านเรือนเสียหายยับ
วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุฝนหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา(8 ก.ย.) บริเวณเทือกเขาในเขต อ.ด่านซ้าย จ.เลย ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากลงสู่ห้วยน้ำเลา, ห้วยน้ำหญ้า ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำป่าสักในเขต จ.เพชรบูรณ์ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว และไหลทะลักออกจากตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่อาศัยบริเวณสองฝั่งริมห้วยน้ำเลาและห้วยน้ำหญ้า ในเขตตำบลตาดกลอยและตำบลศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ในขณะที่กระน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากและพักพาสวะต้นไม้ใบหญ้าและท่อนไม้ไหลมากับกระแสน้ำ กระทั่งไหลไปกองรวมตามบ้านพักอาศัยของราษฎรและถนนในหมู่บ้านโดยเฉพาะในเขตตำบลตาดกลอย จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เนื่องจากราษฎรขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำไม่ทัน ประกอบเป็นช่วงกลางคืนทำให้ทรัพย์สินและสิ่งของต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือการเกษตรจมน้ำหรือถูกกระแสพัดพา ทำให้ได้รับความเสียหานเป็นจำนวนมาด
ในขณะที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก หมู่ 15 ต.ตาดกลอย เมื่อเวลาราว 22.00 น.ของคืนวันที่ 8 ก.ย.ระดับน้ำท่วมสูงกว่าราวสะพานราว 10 ซ.ม. ส่งผลให้ถนนช่วงนี้ถูกตัดขาด โดยรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนหน่วยสำรวจน้ำแม่น้ำป่าสัก s33 ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักบริเวณนี้ ถูกกระแสน้ำป่าที่ไหลบ่าออกจากตลิ่งเข้าท่วมตัวอาคารของหน่วยฯ โดยระดับน้ำภายในอาคารสูงราว 150 ซม. ในขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักจุดหน่วยสำรวจน้ำฯ ช่วงพีคสูงสุดราว 04.00 น.วันที่ 9 ก.ย.วัดได้ 10.15 เมตร ต่อมาราว 06.00 น. กระแสน้ำในลำน้ำสาขาและแม่น้ำป่าสักจึงปรับลดลง และเวลาราว 11.20 น.ระดับน้ำป่าสักวัดได้ราว 7 เมตรเศษ
นายสุรินทร์ จันทวงศ์ อายุ 58 ปี นายช่างสนามประจำหน่วยสำรวจน้ำแม่น้ำป่าสัก s33 หมู่ 15 ต.ตาดกลอย กล่าวว่า หลังฝนหนักในเขตพื้นที่พื้นที่ต้นน้ำสาขาแม่น้ำป่าสัก ทำให้น้ำป่าไหลมารวมกันไหลทะลักพื้นที่ตอนล่างจนเป็นเหตุให้กระแสน้ำไหลทะลักออกจากตลิ่งและท่วมพื้นที่บริเวณริมตลิ่งทั้งลำน้ำสาขาและแม่น้ำป่าสัก โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่หน่วยฯs33 พีคสูงสุดเมื่อราว 04.00 น.วัดได้ 10.15 เมตร โดยระดับน้ำในครั้งนี้ถือว่าสูงมากที่สุดตั้งแต่ย้ายมาประจำหน่วยสำรวจน้ำที่นี่ราว 7-8 ปีมาแล้ว โดยสูงกว่าเมื่อปี 2560 ที่มีน้ำท่วมหนักในพื้นที่บริเวณนี้ด้วย
“เมื่อคืนผมก็ยังไม่คิดว่าน้ำจะสูงอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หลังแจ้งวิทยุเตือนไปยังอำเภอและท้องถิ่นแล้ว ประกอบเป็นช่วงกลางคืน ทำให้ย้ายทรัพย์สินหนีน้ำไม่ทัน กระทั่งสิ่งของต่างๆ ในอาคารหน่วยฯ โดยเฉพาะเครื่องวัดน้ำกรมชลประทานมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ที่ติดตั้งอยู่ต้องจมน้ำทันที และเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากแรงมาก ทำให้ไม่สามารถจะเปิดประตูหนีฝ่ากระแสน้ำออกไปได้ จึงทุบบานเกล็ดหน้าต่างเตรียมมุดหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคา และยังเล็งไว้ด้วยว่าหากระดับน้ำยังไม่ลดก็อาจต้องปีนเสาวิทยุเอาตัวรอด แต่ยังโชคดีพอเวลา 04.00 น.ระดับน้ำถึงจุดพีคและค่อยๆ ปรับลดลง ส่วนสัตว์เลี้ยงไก่ขนที่เลี้ยงไว้กว่า 30 ตัวก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไปด้วย” นายสุรินทร์กล่าว
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook