เพชรบูรณ์ ผวายาย 78 ปีตาย รพ.แจ้งป่วยโควิด-19 กลางงานศพ

หลานสาวของ  นางหนูเฟื้อย มาลา อายุ 78 ปี ผู้เสียชีวิต ชาวอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ โพสต์ลงโลกออนไลน์ เพื่อขอคำอธิบาย หลัง เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE นำร่างของ นางหนูเฟื้อย ออกไปจากงานศพ และแจ้งว่ายายติดโควิด-19 ทำให้ชาวบ้าน แตกตื่น และหวาดกลัว

หลานสาวเปิดเผยว่า ยายเดินทางไปฉีดวัคซีนเข็มแรก คือ โมเดอร์นา หลังจากนั้น 3 วัน ยายก็เริ่มมีอาการหนาวสั่น เหมือนเป็นไข้ เริ่มหายใจไม่ออก ทางครอบครัวจึงได้พายาย ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ 3 วัน

ต่อมาทางโรงพยาบาลก็โทรมาแจ้งว่ายายเสียชีวิต ทางครอบครัวจึงได้ไปรับศพยาย มาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน และขณะที่กำลังเตรียมสวดพระอภิธรรมศพ ทางโรงพยาบาลก็ได้โทรมาแจ้งว่ายายติดเชื้อโควิด-19

ขณะนั้น ทางครอบครัว ยังไม่เชื่อว่ายายจะเสียชีวิตด้วยโควิด-19 แต่เชื่อว่ายายเสียชีวิตด้วยผลข้างเคียงจากวัคซีนพอสอบถามทางโรงพยาบาลไปก็ไม่ได้คำตอบใดๆ จากโรงพยาบาล ที่สำคัญถ้ายายติดเชื้อโควิดจริงๆ ทำไมให้ญาติไปรับศพยายกลับมาที่บ้านเพื่อจัดการศพที่บ้าน จนทำให้คนที่มาร่วมงานศพต่างพากันผวาทั้งงาน

ล่าสุด มีคำชี้แจง  จากนพ.กมล กัญญาประสิทธิ์ สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าวันที่ 3 ธ.ค.2564 ทางญาติได้พาผู้เสียชีวิตเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองไผ่ ด้วยอาการไข้สูง เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เนื่องจากน้ำตาลสูง ซึ่งตัวผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว คือโรคเบาหวาน ทางทีมแพทย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบเชื้อ จึงได้ให้คนไข้เข้ารักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยรวม

กระทั่งคืนวันที่ วันที่ 6 ธ.ค.64 ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก ปอดติดเชื้อ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทีมแพทย์จึงตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง และระหว่างที่รอผลตรวจ 6 ชั่วโมง ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรศัพท์ไปแจ้งทางกับญาติผู้ตาย ให้เดินทางมารับศพ เพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านได้

ซึ่งข้อนี้เป็นความผิดพลาดของทางโรงพยาบาลหนองไผ่ ที่มีการสื่อสารภายในองค์กรไม่ชัดเจน แต่เมื่อทราบผลว่าผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จริง ทางโรงพยาบาลจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งผลให้กับทางญาติทราบ และได้ให้เจ้าหน้าที่ไปรับศพผู้ตาย เพื่อนำไปฌาปนกิจศพทันที

สำหรับเรื่องที่ทางญาติติดใจเรื่องการเสียชีวิตว่ามาจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนนั้น ข้อนี้ทางแพทย์ยืนยันว่าไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน แต่เป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19  และยังเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน จึงทำให้ผู้เสียชีวิตติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสพร้อมกัน

ส่วนผู้เสี่ยงสูงขณะนี้ มีจำนวน 17 คน ผู้เสี่ยงต่ำ 200 คน ซึ่งทั้งหมดผลออกมาเป็นลบ และให้อยู่ระหว่างกักตัวเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

โดยเรื่องดังกล่าวทางนพ.สมรัฐ ศรีตะกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองไผ่ และทีมแพทย์ จะเข้าไปขอโทษและทำความเข้าใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง

https://www.youtube.com/watch?v=k9F972se-Ws