LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
\
กระทรวงสาธารณสุข ประกาศยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 4 รับมือ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มมาตรการป้องกัน อาจปิดสถานที่เสี่ยง ขอประชาชนชะลอเดินทางข้ามจังหวัด และ WFH
วันนี้ (6 ม.ค.2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธาณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อ 5,775 คน ผู้ป่วยตั้งแต่ 1 เม.ย. สะสม 2,216,387 คน หายป่วยเพิ่ม 2,673 คน หายป่วยสะสม 2,158,076 คน กำลังรักษา 37,968 คน เสียชีวิต 11 คน
ขณะนี้มีการระบาดเพิ่มขึ้น เข้าสู่อีก 1 ระลอก จะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็ว เพราะในระยะนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอน แต่อาการไม่รุนแรง ซึ่งต้องการให้เฝ้าระวังป้องกันให้มากขึ้น
อัตราเสียชีวิตของโอมิครอนค่อนข้างต่ำ แต่ฐานจำนวนผู้ติดเชื้อมาก อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่กระทรวงสาธารณสุขจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแล โดยพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดอื่น ๆ สถานการณ์ภายในประเทศ มี 12 จังหวัดที่มีผู้ป่วยหลักร้อยคน โดยขอให้ตรวจ ATK เป็นประจำ จะทำให้ตรวจพบเชื้อได้เร็ว
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเข้าไปใช้บริการสถานที่ระบบปิด เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ ร่วมงานเลี้ยง งานบุญ กิจกรรมทางศาสนา และระมัดระวังไม่เพียงพอ อีกทั้งการเดินทางมีผลต่อการแพร่กระจายเชื้อ
“อยากให้ประชาชนที่กลับมาจากต่างจังหวัดเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน ถ้า Work from Home ได้จะดีมาก”
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ขอแจ้งระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 4 จากเดิมระดับ 3 โดยมีมาตรการและข้อแนะนำเพิ่มขึ้น เช่น อาจมีการปิดสถานที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค หรือการแพร่เชื้อ, เพิ่มมาตรการต่าง ๆ ให้มากขึ้นในเกิดความปลอดภัยในสถานที่เสี่ยง, ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด และขอให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home), จำกัดการรวมกลุ่ม, ขอให้เร่งฉีดวัคซีน, ใช้มาตรการ Universal Prevention รักษาระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก ระมัดระวังว่าคนใกล้ชิดอาจเป็นผู้ติดเชื้อได้, Covid free setting ขอความร่วมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานที่ สธ.กำหนด, ในช่วงนี้ขอให้ตรวจ ATK เป็นประจำ ในทุก 3 วัน หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
นพ.เกียรติภูมิ ยืนยันว่า ผู้ป่วยโอมิครอน 95% มีอาการน้อย ซึ่งจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อสูง หากตรวจหาเชื้อเป็นประจำจะช่วยให้แพร่เชื้อได้ลดลง ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อย ขอให้เข้าสู่ระบบดูแลที่บ้าน (Home Isolation) หากมีอาการเพิ่มขึ้นจะมีระบบฟาสแทร็ก เข้าสู่การรักษาในโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว
“ขณะนี้มีการระบาดรุนแรงมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มระดับการเตือนเป็นระดับที่ 4 อยากให้ประชาชนชะลอการเดินทาง จำกัดการรวมกลุ่ม”
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook