วันที่ 23 มกราคม 2565 ที่ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้แจ้งเรื่องราว การทำกุศลใหญ่ หลังการเสียชีวิตของ นางสาวชาลิสา วงษาวดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.บ้านติ้ว อ.เหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พนักงานงานฟู๊ดแพนด้า ซึ่งประสบอุบัติเหตุสมองตาย โดยเจ้าตัวเคยบอกกับญาติ ในงานวันเกิดของป้า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565ที่ผ่านมา ว่าถ้าหากตนเองตายลง ก็อยากบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตคน และต่อมา วันที่ 21 มกราคม 2565 นางสาวชาลิสา ได้รวมกลุ่มไปทำงานที่บ้านเพื่อน กระทั่งเวลา 02.00 น. นางสาวชาลิสา ได้ขับรถจักรยานยนต์ เพื่อจะกลับไปยังห้องพัก แต่มาประสบอุบัติเหตุ ระหว่างทาง เมื่อรถจักรยานยนต์ของ นางสาวชาลิสา วงษาวดี ที่ขับมาเกิดไปชนเข้ากับท้ายรถยนต์ ที่จอดอยู่ข้างทาง จนน้องขาหัก หัวใจหยุดเต้น เหตุเกิดแถวบายพาส หน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์
และ ถูกนำตัวส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษา ต้องทำการปั๊มหัวใจถึง 6 ครั้ง และแพทย์ได้บอกกับทางญาติว่า นางสาวชาลิสา ขาดอากาศหายใจ มีอาการสมองตาย โดยญาติตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ เมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 15.52 น. ต่อมา ทางศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จึงยื่นความประสงค์ในการขอรับบริจาคกับทางญาติ ญาติของผู้ป่วยจึงตัดสินใจบริจาค อวัยวะในร่างกาย ให้กับทางสภากาชาดไทย เพื่อหวังให้บุญกุศล ส่งให้ผู้ตายไปสู่ในภพภูมิที่ดี แต่เนื่องจาก สภาพทางกายของผู้ป่วย และ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทีมแพทย์ของทางสภากาชาดไทย จึงไม่สามารถเดินทางมารับบริจาคอวัยวะได้ทั้งหมด จึงได้แค่เพียง ดวงตา ทั้ง 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ ไต 2 ข้าง หลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบ ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยชีวิตคน ได้ 6 ชีวิต
ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้น ทางญาติจะนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.บ้านติ้ว อ.เหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และ จะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 27 มกราคม 2565 ณ วัดศรีภูมิ ตำบลบ้านติ้ว อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
จากการสอบถาม นางระพีพร วงษาวดี อายุ 58 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ตนเองมีลูก 2 คน ส่วนผู้ตายเป็นน้องคนสุดท้อง ชอบเรียนภาษาอังกฤษมาก มีความฝันอยากไปทำงานต่างประเทศ เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงดูครอบคัว ช่วงนี้น้องกำลังสอบภาษา น้องประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋ง ที่จอดอยู่ข้างทาง หมอแจ้ง น้องอาการขาดออกซิเจน หลายนาที และขาหัก เรื่องการบริจาคอวัยวะ เป็นความประสงค์ของน้องอยู่แล้ว เพราะน้องเคยพูดกับตนเองเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ไปทางสภากาชาดไทย ก่อนที่ลูกสาวจะประสบอุบัติเหตุ ตนก็ไม่เคยมีลางบอกเหตุ ว่าตะเกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้น ปกติทุกอย่าง ตัวน้องมีความไผ่ฝัน ทำงานเกี่ยวกับภาษา อยากไปทำงานต่างประเทศ เพราะน้องอยากมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ในครั้งนี้ที่ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของน้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ยังมีชีวิตอยู่ และเพื่อให้เป็นกุศลต่อตัวน้อง น้องจะได้รับกุศลส่วนนี้ไปในภายภาคหน้า ที่น้องไม่ได้อยู่กับเราแล้ว จะได้เป็นโอกาสต่อชีวิตให้ผู้อื่น ซึ่งเป็นกุศลที่สูง หนุนนำให้น้องได้ไปเจอสิ่งที่ดี ในภพภูมิข้างหน้า
ด้านนายแพทย์ นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ก็ขอสาธุอนุโมทนาบุญ ให้กับครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งประสบอุบัติเหตุ เป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 27 ปี ซึ่งบริจาค ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ เส้นหลอดเลือดดำที่ขา ซึ่งสามารถนำไปช่วยเหลือคนได้ 6 คน 4 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาล สามารถรับบริจาค ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพราะเรายังมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยทุกปี ตั้งแต่ ปี 2562 เป็นต้นมาเรามีการจัดหาอวัยวะ สำหรับผู้บริจาค ซึ่งทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็นสะพานบุญ ปี 2563 ได้เครสบริจาคอวัยวะ 23 ราย ซึ่งเป็นไต 12 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 3 ดวงตา 27
ซึ่งหมายถึงเรามีอวัยวะไปให้ผู้ปลูกถ่าย 14 ท่าน ในปี 2564 ที่ผ่านมา เราได้ ไต 18 ข้าง ลิ้นหัวใจ 2 ดวงตา 45 ดวง มีผู้บริจาคอวัยวะ 39 ราย ไปช่วยคนที่รอปลูกถ่ายอวัยวะ 65 ราย ที่มีปัญหาทุกข์ทน ทุกข์ทรมานจากอวัยวะวาย ก็จะได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ดังกล่าว สำหรับปี 2565 นี้ เรามีการรับบริจาคอวัยวะไปแล้ว ไต 4 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 1 แล้วก็ดวงตา 6 ดวง จากผู้บริจาคอวัยวะ 8 ราย ซึ่งก็มีคน 13 คน ที่ได้อวัยวะ ซึ่งทางโรงพยาบาล ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย เพราะอวัยวะได้มาจากผู้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เกิดภาวะสมองตาย และนำอวัยวะไปใช้ หรือดวงตา ซึ่งไม่มีข้อผูกห้ามทางการแพทย์ แต่ทางครอบครัวมีจิตศรัทธา เป็นสะพานบุญที่จะบริจาคอวัยวะให้กับผู้ที่รอคอย
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook