คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 23 บาท ห้างดัง อ.หล่มสัก ก่อนยิงเปิดทางหลบหนี

เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชักปืนจี้ชิงทอง ร้านทองเยาวราชสินทวี ห้างบิ๊กซี สาขาหล่มสัก ได้ทองไป 23 บาท ก่อนหลบหนีได้ยิงเปิดทางหน้าห้าง ตำรวจเร่งเข้าตรวจสอบ พร้อมเก็บหลักฐานจากรอยนิ้วมือ

เมื่อเวลา 19.05 น. วันที่ 24 ม.ค.65 ร.ต.อ.นิรุจน์ กองสี พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกปล้นทอง ร้านทองเยาวราชสินทวี ห้างบิ๊กซี สาขาหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.สุรวิชย์ ชัยสิทธิ์ ผกก.สภ.หล่มสัก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบพนักงานร้านเป็นผู้หญิงสามคนยืนรอให้ปากคำด้วยอาการตกใจ โดย น.ส.รัชนีกร แสงมะณี อายุ 30 ปี ให้การว่าช่วงเกิดเหตุกำลังขายทองอยู่กับเพื่อนอีกสองคนชื่อ น.ส.สุพัตรา จำแปง อายุ 24 ปี และ น.ส.กรเกศ คำแก่น อายุ 24 ปี ได้มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดแขนสั้นคอปก กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบสีดำ เดินเข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งขณะนั้นตนและเพื่อนกำลังเก็บทองที่ตู้ คนร้ายได้นำปืนพกสั้นลักษณะคล้ายปืนไทยประดิษฐ์แบบยิงนัดเดียวมาวางที่ตู้ และใช้มือซ้ายปิดปืนเอาไว้แต่ไม่มิด และได้บอกว่าให้ส่งทองมา ตนได้ฟังก็ไม่แน่ใจว่าคนร้ายพูดอะไร จึงถามกลับไปอีกครั้งว่า อะไรนะคะ โดยคนร้ายได้กล่าวว่า ห้ามกดสัญญาณ จากนั้นคนร้ายได้กระโดดเข้ามาพร้อมกระชากทองที่อยู่ในถาดติดกำแพง แต่ทองเกาะไว้กับตะขอจึงทำให้มีขาดบางส่วน และได้ทองไป 23 เส้นน้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวม 23 บาท ก่อนวิ่งหลบหนีไป และใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีหนึ่งนัด ก่อนหลบหนีไป

สอบถาม น.ส.จิราพร จันทขันธ์ อายุ 31 ปี พนักงานร้านทองเยาวราชสินทวี ที่ประจำอยู่ที่สาขาโลตัสหล่มสัก ที่มาดูที่เกิดเหตุ หลังทราบว่ามีการปล้นร้านทองที่สาขาบิ๊กซี ให้การว่า พบเห็นชายลักษณะคล้ายคนร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิดมาเดินป้วนเปี้ยนที่ร้านทองสาขาโลตัสหล่มสัก ซึ่งเห็นรูปพรรณสัณฐานแล้วจำได้ เพราะใส่แมสก์สีดำ แต่การแต่งกายเปลี่ยนไป และถือถุงแตกต่างกัน รวมทั้งเป็นเป้สะพายหลัง สูงประมาณ 170 กว่าๆ มาป้วนเปี้ยนตั้งแต่วันที่ 17 – 20 มกราที่ผ่านมา เวลา 10 โมงเช้าและ 4 โมงเย็น บางวันมา 2 รอบ วันที่ 20 ม.ค. ตนรู้สึกแปลกใจจึงเดินตามแต่ยังไม่เกิดเหตุอะไร

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ห้างโลตัสหล่มสัก เพื่อหาเบาะแส รูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเพิ่มเติม กระทั่งเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานได้นำอุปกรณ์มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ คือรอยนิ้วมือ เพราะจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายไม่สวมถุงมือ จึงทิ้งหลักฐานเป็นลายนิ้วมือที่บริเวณกระจก ซึ่งเป็นตู้ขายทอง