LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2024
คอลัมน์วันนี้

ลมหายใจ “ใบยา” วิถีพอเพียง…ที่เพชรบูรณ์

ไร่ยาสูบ

โลกมีหลายด้านและหลายมิติให้คนมอง “ยาสูบ” หรือ “ใบยา” เป็นหนึ่งในตัวอย่างของผลผลิต ทีี่ต้องใช้มุมมองที่หลากหลาย ไม่ด่วนสรุป

ภาพด้านหนึ่งของยาสูบคือ อบายมุข

แต่อีกด้าน ยาสูบคือพืชเศรษฐกิจ ที่เป็นผลผลิตทางด้านความมั่นคงของประเทศ เป็นพืชควบคุมที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ยาสูบ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ (อยส.) “ต่อศักดิ์ โชติมงคล” พาสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเยี่ยมชมไร่ยาสูบที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นอีกทริปหนึ่งที่ได้ทั้งสาระ ประสบการณ์ แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ได้การมองโลกอย่างลุ่มลึก และไม่ตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงด้านเดียว

ทางหลวงหมายเลข 21 นำเรามุ่งหน้าสู่เพชรบูรณ์ จังหวัดที่มีการปลูกยาสูบมานานเป็นร้อยปี เหตุที่เชื่ออย่างนั้น ก็เพราะว่า แม้แต่ตราประจำจังหวัด ก็ยังมีรูปไร่ยาสูบอยู่ด้านล่างของภูเขาที่มียอดเป็นเพชรอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “เพชรบูรณ์” อันหมายถึงจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยเพชร

เรื่องตราประจำจังหวัดเพชรบูรณ์นี้ ว่ากันว่า มีมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มีแนวคิดว่าในประเทศไทยแต่ละจังหวัดน่าจะมีตราเป็นของตัวเองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ แล้วมอบให้กรมศิลปากรขณะนั้นเป็นผู้ออกแบบ ซึ่งการออกแบบสมัย 70-80 ปีที่แล้วไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีกราฟฟิก ไม่มีโฟโต้ช็อป ใช้ลายเส้นลายมือวาดสะท้อนความเป็นอยู่ของคนในจังหวัดนั้นๆ

 

ใบยา..ต่อชีวิต


Route 12

นอกจาก เขาค้อทะเลหมอก ทุ่งแสลง-หลวง ภูทับเบิก แล้ว “ไร่ใบยา” สีเขียวอร่ามสุดลูกหูลูกตาก็เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่น่าเข้าไปค้นหามากกว่าการท่องเที่ยวธรรมดาๆ

ใบยาที่ปลูกที่นี่เป็นใบยาพันธุ์เบอร์เลย์ ถือเป็นใบยาคุณภาพดี มีมาตรฐานระดับโลก ใบยาประเภทนี้ต้องใช้การบ่มอากาศ ที่เรียกว่า Air-Cured Tobacco เมื่อบ่มแล้วจะกลายเป็นยาสูบที่นำไปใช้เป็นส่วนผสมรองในการทำบุหรี่รสอเมริกัน ขณะที่ยาสูบอย่างเวอร์ยิเนีย จะเป็นส่วนผสมหลักของบุหรี่รสอังกฤษและรสอเมริกันด้วย

เรื่องราวเริ่มสนุก เมื่อเรานั่งรถขนใบยาเข้าไปในไร่ยาสูบ ระหว่างทาง อยส. “ต่อศักดิ์” เล่าถึงประวัติความเป็นมาของการปลูกยาสูบและการก่อตั้งโรงงานยาสูบให้ฟังอย่างออกรส

เริ่มจากที่โรงงานยาสูบเข้าไปซื้อกิจการของบริษัท British America Tobacco (BAT) ซึ่งเข้ามาในประเทศไทยราวปี 2475 โดย เข้ามาส่งเสริมให้คนปลูกใบยาสูบแทนปลูกฝิ่น สมัยนั้นสงครามฝิ่นเป็นเรื่องใหญ่และเป็นชนวนเหตุหนึ่งที่ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนไปในสมัยรัชกาลที่ 5 รัฐบาลไทยขณะนั้นต้องรักษาสมดุลของระบบใบยา จึงตัดสินใจเข้าควบคุมซื้อกิจการมาจาก BAT ด้วยการตั้งโรงงานยาสูบที่ทำหน้าที่ทั้งส่งเสริมให้การสนับสนุนปลูกใบยาและผลิตบุหรี่ด้วย

ส่วนที่บอกว่า “ใบยา” เป็นพืชเกี่ยวกับความมั่นคงก็เพราะในปี พ.ศ. 2516 มีปัญหาเรื่องคอมมิวนิสต์ ทางฝ่ายความมั่นคง หรือทหารได้หาพืชเข้าไปทดแทนให้ชาวไร่ภาคอีสานปลูก ให้ชาวไร่ทำมาหากินได้ ก็ให้โรงงานยาสูบเข้าไปสนับสนุน ทางโรงงานยาสูบเลือกดูว่าพืชพันธุ์ไหนเหมาะสม สุดท้ายพบพันธุ์ยากลิ่นหอมหรือเตอร์กิช ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ไม่ต้องการน้ำมากอย่างภาคอีสานที่เป็นดินปนทราย ก็เริ่ม พัฒนาการปลูกจนกระทั่งวันนี้มีชาวไร่จำนวนมากที่เปลี่ยนใจกลับมาร่วมพัฒนาประเทศไทยโดยใช้โรงงานยาสูบเป็นฐาน

ณรงศ์ศักดิ์ และ หนูจันทร์ คำสูง เจ้าของไร่ใบยา 6 ไร่ ใน อ.หล่มสัก เล่าให้ฟังว่า การปลูก ใบยาสูบไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของโรงงานยาสูบด้วย ปลูกเกินกว่าที่โรงงานยาสูบให้ปลูกไม่ได้ ขณะที่การดูแล หรือเรียกให้ถูกก็ต้องบอกว่าประคบประหงมใบยาก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะใบยาสูบเป็นพืชที่ต้องการน้ำฝนและความชุ่มชื้นในอากาศ การปลูกใบยาต้องปลูกในช่วงกลางฤดูฝนถึงปลายฤดูฝน จึงจะได้ใบยาที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาด

ชาวไร่จะปลูกใบยาสูบในนาหลังจาก เก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง ความต้องการน้ำของต้นยาสูบในระยะเดือนแรกมีน้อยมาก แต่หลังจากปลูกแล้ว 30-40 วัน ต้องรดน้ำทุก 7 วัน ก่อนเก็บใบยาแรก 1 เดือน และเก็บใบยาสดเมื่อต้นยาสูบอายุประมาณ 100-120 วัน เสร็จสิ้นการเก็บใบยาประมาณเดือนมกราคม หรือประมาณ 2 เดือน หลังจากเริ่มเก็บใบยาสดครั้งแรก การเก็บใบยาสดแต่ละครั้งจะต้องรอให้ใบยาสุกจริงๆ เพื่อให้ได้ใบยาแห้งที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ ต้องเริ่มเก็บใบยาส่วนล่างก่อน คือ เก็บจากล่างขึ้นบน ครั้งละ 3-4 ใบ ใบยาแต่ละส่วนจะมีประมาณ 7-10 ใบ ต้นหนึ่งจะเก็บประมาณ 20-22 ใบ หลัง จากมีใบครบจะเด็ดดอกส่วนยอดออกเพื่อควบคุมไม่ให้มีใบมากเกินไป

“เราเรียกว่า ตอนยอด ซึ่งปกติถ้าต้นไม้มีดอก ต้นจะเลี้ยงดอกมากกว่าใบ การเด็ดดอกออกเพื่อให้ลำต้นเลี้ยงใบแทน ใบจะได้รับสารอาหารเต็มที่ทำให้ใบยาสูบมีคุณภาพที่ดี” หนูจันทร์บอกพร้อมกับเล่าว่า ได้เงินจากการปลูกยาสูบ 6 ไร่ ประมาณแสนกว่าบาทต่อปี หักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือประมาณ 60,000 บาท ส่วนการปลูกข้าวได้รายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 40,000 บาท แต่รายได้จากการปลูกข้าวไม่ค่อยแน่นอน ต่างจากการปลูกใบยาที่มีการประกันราคาแน่นอนทุกปี ทำให้ส่งลูกเรียนหนังสือได้ คนโตกำลังจะจบ ปวส.แล้ว

โรงบ่ม..ชาวบ้าน

เราออกจากไร่ยาสูบตอนบ่ายแก่ๆ ไม่ลืมที่จะแวะเวียนไปดูการคัด เสียบร้อยใบยาสด รวมถึงดูโรงบ่มใบยาของชาวบ้านที่ต้องบอกว่าแปลกตาดี กลิ่นใบยาหอม ฉุนเตะจมูก ทำให้นึกถึงกาแฟสดหอมกรุ่น เจ้า ภาพเลยชี้ชวนให้ขึ้นไปที่ Route 12 ร้านกาแฟกิ๊บเก๋สไตล์ที่พักริมทางแบบคันทรีๆของอเมริกา ริมทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ที่ตกแต่งสไตล์เรทโทร ทั้งหัวจ่ายน้ำมันแบบโบราณ รถโรงเรียนสีเหลืองสด

school bus …ที่ Route 12


จักรยานสีขาว..


เติมน้ำมันโบราณ

นั่งจิบกาแฟไป ชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติไปพลาง

เรื่องราวของใบยา ชาวไร่ รัฐ เอ็นจีโอ คนสูบ คนไม่สูบ อะไรคือความถูกต้อง สิทธิ และสิ่งที่ควรจะเป็นแง่มุมที่หลากหลายเหล่านี้น่าสนใจพอๆกับความรู้สึกที่คิดว่า หากคนเรามีชีวิตอยู่ด้วยลมหายใจ ใบยาสูบที่เพชรบูรณ์ ก็น่าจะเป็นลมหายใจในวิถีพอเพียงของผู้คนที่นี่

เป็นอีกด้านที่ไม่อาจมองข้ามไปได้.

 

 

ที่มา  http://www.thairath.co.th/column/life/travelmylife/273883    ‘>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

คอลัมน์วันนี้ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด