
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการพบฟอสซิลซากดึกดำบรรพ์ซึ่งคาดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกสันหลังไดโนเสาร์ ในแหล่งเดียวกับที่ค้นพบฟอสซิลชิ้นส่วนกระดูกน่องไดโนเสาร์ ที่บ้านห้วยหญ้าเครือ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ว่า ความน่าสนใจของตัวอย่างฟอสซิลกระดูกสันหลังไดโนเสาร์ที่พบใหม่ หลังจากคณะสำรวจพื้นที่สำรวจประเมินศักยภาพพื้นที่แล้วได้นำกลับมาวัดขนาดและทำการวิเคราะห์ในเบื้องต้นแล้ว พบว่าสัดส่วนไม่สอดคล้องและสัมพันธ์กับตัวอย่างฟอสซิลกระดูกส่วนน่องไดโนเสาร์ที่พบก่อนหน้านี้ เบื้องต้นจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นไดโนเสาร์คนละตัวกันมากกว่า โดยเฉพาะตัวอย่างที่พบล่าสุดคาดว่าน่าจะตัวเล็กกว่าด้วย ทางคณะสำรวจจึงเห็นว่าควรจะเปิดหน้าดินเพื่อทำการขุดค้นเพิ่มเติม
“สิ่งที่น่าดีใจก็คือทั้งชุมชนและชาวบ้านที่น้ำหนาว ต่างมีความตื่นตัวกับกระแสการพบฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นอย่างมาก โดยรับปากว่าต่อไปหากไปพบหรือสังเกตหินที่มีลักษณะแปลกตาก็จะเก็บกลับมาให้ดู” ดร.วิศัลย์กล่าว
ผศ.ดร.ภาสกร บุญชาลี นักบรรพชีวินวิทยาและรองผอ.ศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า เดิมทางทีมงานต้องการลงพื้นที่เพื่อสำรวจแหล่งค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์เบื้องต้นเท่านั้น จึงไม่มีการเตรียมเครื่องมือหนักเข้ามาทำการขุดค้น จึงไม่คาดคิดว่าจะพบตัวอย่างฟอสซิลเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตามจากตัวอย่างฟอสซิลที่พบเพิ่มเติมและสันนิษฐานว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกส่วนสันหลังไดโนเสาร์ และความน่าสนใจของแหล่งนี้ก็คือเป็นฟอสซิลที่จัดอยู่ในหมวดหินน้ำพองก็ค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลยากอยู่แล้วในระดับหนึ่ง
“สำหรับข้อสันนิษฐานจากตัวอย่างฟอสซิลที่พบล่าสุดกับฟอสซิลที่พบก่อนหน้านี้ จากข้อสังเกตที่ขนาดและสัดส่วนที่ไม่สัมพันธ์กันจนทำให้เบื้องต้นเรามองว่าน่าจะมีไดโนเสาร์มากกว่า 1 ตัว เพราะขนาดไซซ์ค่อนข้างแตกต่างกันมากระหว่างกระดูกน่องกับกระดูก 4 ชิ้นที่เราเจอ อย่างไรก็ตามการพบฟอสซิลไดโนเสาร์ก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่แล้วไม่ว่าจะเจอมากหรือน้อยก็ตาม ฉะนั้นหากเราสามารถค้นพบตัวอย่างมากขึ้น ความน่าสนใจก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ในช่วงปลายปีนี้เราจะเปิดหน้าไซต์ทำการขุดค้นต่อ โดยคาดหวังว่าเราจะเจอตัวอย่างชิ้นส่วนฟอสซิลมากขึ้น” ผศ.ดร.ภาสกรกล่าว
ข่าวแจ้งว่า นอกจากคณะสำรวจจะลงพื้นที่แหล่งค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์แล้ว ทางอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ ยังนำฟอสซิลปลาที่ทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดงพบระหว่างเดินลาดตระเวนในป่าได้พบโดยบังเอิญและส่งมอบให้ทางอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ศึกษาวิจัย ซึ่งปรากฏว่าทางทีมสำรวจกรมทรัพยากรธรณีและทางทีมสำรวจศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต่างรู้สึกอึ้งและให้ความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากฟอสซิลปลาล่าสุดที่พบนั้น สันนิษฐานว่าอยู่ในหมวดหินห้วยหินลาด อายุราว 240 ล้านปี ซึ่งแตกต่างกับฟอสซิลปลาที่พบที่ ต.น้ำเฮี้ย อ.หล่มเก่า และที่ ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ อายุราว 13 ล้านปี จึงเตรียมแผนให้มีการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติม
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook