เพชรบูรณ์ พิษเศรษฐกิจทำสาวโรงงานรายหนึ่งลาออกกลับมาปลูกต้นดอกซ่อนกลิ่นขายรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท โดยได้พลิกฟื้นแปลงผักปลูกผักของพ่อแม่มาปลูกดอกซ่อนกลิ่นเพื่อขายต้นพันธุ์ผ่านโซเชียล
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีอดีตสาวโรงงานรายหนึ่งได้รับผบกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ต้องกลับมาทำงานที่บ้านอำเภอหล่มสัก โดยได้พลิกฟื้นแปลงผักปลูกผักของพ่อแม่มาปลูกดอกซ่อนกลิ่นเพื่อขายต้นพันธุ์ผ่านโซเชียลปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโกยรายได้เดือนละเกือบสามหมื่นบาท
นางมณทิชา บุตรแก้ว อายุ 33 ปี (เสื้อน้ำตาล) เปิดเผยว่าเมื่อหลายปีก่อนตนทำงานอยู่ต่างจังหวัดเป็นลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่ง แต่ต่อมาเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงได้ลาออกและกลับมาอยู่ที่บ้าน ต.ปากดุก อ.หล่มสัก ต่อมาได้เห็นว่าแม่ได้ปลูกต้นดอกซ่อนกลิ่นและดอกไม้ไว้เป็นจำนวนมาก ประกอบกับพืชผักที่ปลูกขายมีราคาตกต่ำ จึงได้ปรึกษากับน้องพี่คือ นางพจนา เดชทอง อายุ 34 ปี ในการปรับปรุงพื้นที่ปลูกผักของแม่ที่มีอยู่ประมาณ 1 ไร่ มาปลูกและขยายพันธุ์ต้นดอกซ่อนกลิ่นเมื่อได้ปริมาณพอสมควรได้จึงได้สร้างเพจเพื่อขายหน่อต้นดอกซ่อนกลิ่น รวมทั้งได้หาซื้อต้นพันธ์ดอกสีต่าง ๆ มาขยายพันธุ์และแยกหน่อขาย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยปีแรก ๆ สามารถทำรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท แต่เมื่อมีการระบาดของเชื้อโควิดทำให้ยอดขายตกลงมาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติก็ได้มียอดการสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มมากขึ้นขณะมีรายได้เดือนละประมาณ 3 หมื่นบาท
สำหรับต้นพันธุ์ดอกซ่อนกลิ่นในสวนตอนนี้มีหลากหลาย เช่นดอกสีม่วง สีชมพู สีขาว สีเหลือง ซึ่งก็มีทั้งแบบดอกลาคือชั้นเดียว และดอกซ้อน โดยดอกซ่อนกลิ่นนี้จะมีกลิ่นหอมมาก ออกดอกตลอดทั้งปี ดอกส่วนมากจะนำไปไหว้พระ ประดับซุ้มดอกไม้ รวมทั้งนำไปสกัดเป็นหัวน้ำหอม แต่ในส่วนของตนเองจะขายเฉพาะต้นพันธุ์เท่านั้น ส่วนดอกชาวบ้านก็จะมาขอไปไหว้พระ ไปจัดซุ้มดอกไม้งานบุญต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งตนก็ไม่หวงเพราะถือว่าเป็นการช่วยชาวบ้านและทำบุญด้วย
ท่านใดที่สนใจจะเยี่ยมชมสวนหรือจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์092-2935361,0882745979 หรือจะเข้าไปเยี่ยมชมพูดคุยในเพจก็ได้ชื่อเพจ “ดอกซ่อนกลิ่น และดอกไม้ต่าง ๆ สวนสามพี่น้องเกษตรกรรม”
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook