18 ล้อขนขี้ยางเสียหลักพลิกคว่ำขณะลงเนิน “มอช้างตาย” ดับคาที่ 2 ศพ

เกิดอุบัติเหตุโชเฟอร์ขับรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อ ขนยางถ้วยลงเนินเขามอช้างตาย แล้วเกิดเบรกแตก เสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมาจากตัวรถ 1 ราย และคาดว่าคนขับจะถูกรถทับร่างอีก 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่เร่งค้นหา

วันที่ 11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ร.ต.ท.พันธสัญญา คำแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เสียหลักหลุดโค้งตกเขา ช่วงบริเวณเนินมอช้างตาย พื้นที่ หมู่ 10 บ้านไผ่ใหญ่ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงรถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีเหลืองขาว แผ่นป้ายทะเบียนตัวแม่ 82-5923 นครศรีธรรมราช ตัวลูก 82-5924 นครศรีธรรมราช สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า ใกล้กันพบยางถ้วนตกกระจายเกลื่อนทั่วพื้น พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย สภาพศพกระเด็นออกมาจากตัวรถ นอกจากยังมีผู้สูญหาย ซึ่งเป็นชาย ที่คาดว่าเป็นคนขับ 1 ราย คาดว่าจะถูกตัวรถทับอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าดำเนินการ เพื่อ ค้นหาร่างของคนขับ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นางกรทิพย์ พลอยกระจ่าง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 12 ต.บ้านกล้วย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และ นายนพพร กงกำปั่น อายุ 51 ปี อยู่อยู่บ้านเขที่ 50 หมู่ 12 ต.บ้านกล้วย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ( ผู้ขับขี่ )

จากการสอบถาม นายจุฑาวุฒิ แซ่จิ่ว อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นนายจ้าง เปิดเผยว่า ได้ว่าจ้างนายนพพร กงกำปั่น อายุ 51 ปี และนางกรทิพย์ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ขับรถเพื่อขนขี้ยางพาราจากบ้านรักไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เพื่อไปส่งที่ จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างทางจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเขาลาดชันและเป็นทางโค้งหักศอก ตนได้ขับรถยนต์ตามท้ายรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวมา พบว่ารถบรรทุกพ่วงได้เสียหลักพุ่งหลุดโค้งลงไปข้างทางอยู่ในลักษณะพลิกคว่ำ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และ ผู้ที่ โดยสารมาด้วยนั้นเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยขณะนี้พบศพเพียง 1 รายที่กระเด็นออกมาจากตัวรถส่วนศพผู้ขับขี่รถอีก 1 รายทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างดำเนินการค้นหาเนื่องจากเป็นรถพ่วง 18 ล้อขนาดใหญ่พลิกคว่ำลงไปไหล่ทางการค้นหาจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องรอรถยกขนาดใหญ่จากหน่วยงานปภ.เข้ามาดำเนินการเคลื่อนย้ายซากรถเพื่อทำการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 รายที่ยังหาตัวไม่พบในขณะนี้

ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นช่วงโค้งลงเขาและรถบรรทุกยางถ้วยที่มีน้ำหนักมาเต็มคัน จึงทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกควบคุมรถได้จึงพลิกคว่ำตกเหวข้างทาง ส่งผลให้มีผู้ เสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้บริเวณจุดเกิดเหตุชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เป็นทางลงเขายาวกว่า 1 กม. ทางหน่วยงานทางหลวงชนบทจึงได้มีการนำป้ายมาติดแจ้งเตือนข้างทางเอาไว้ให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวังและชะลอความเร็ว แต่ก็มักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณช่วงทางลงเขาจุดนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการแจ้งญาติให้มารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.