กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถูกนายทุนบุกรุกสร้างรีสอร์ทที่เขาค้อ

วันนี้(12 มี.ค.56) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สถาพร สันติสิทธานนท์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม อัยการคดีพิเศษ พ.อ.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.ชูศักดิ์ สงวนบุญญพงษ์ รอง เสธ.จทบ.เพชรบูรณ์ นายมานพ สายอุ่นใจ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาป่าไม่ของชาติ ที่ 2 พิษณุโลก เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน ทหารจากศูนย์เฉพาะกิจจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ พร้อมคณะทำงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแม่นาอำเภอเขาค้อ หลังจากรับเป็นคดีพิเศษ

จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเมื่อปี 2542 ประชาชนได้มีมติให้พื้นที่ดังกล่าวดำเนินโครงการปลูกป่าถาวรและพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื้อที่ 150 ไร่ โดย อบต.หนองแม่นา เป็นผู้ดำเนินโครงการแต่ไม่สำเร็จ และพบว่ามีการบุกรุกยึดถือครอบครองโดยมิชิบด้วยกฎหมาย มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง บ้านพักตากอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมามีการจับกุมดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเขาค้อ จำนวน 8 ราย ผู้กระทำผิดเป็นผู้มีอิทธิพล นักธุรกิจแสวงหาประโยชน์จากที่ดินของรัฐ ร่วมกับ รอส.และทายาททำการจัดสรรที่ดินขายให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่มีสิทธิเข้าสร้างที่พักรีสอร์ท ทั้งที่มีการตรวจยึดจับกุมแล้ว แต่ยังก่อสร้างเพิ่มเติมและเปิดให้บริการตามปกติอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดอาญาฐานบุกรุก ก่อสร้าง ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ,พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ,ประมวลกฎหมายที่ดินและ พ.ร.บ.โรงแรมฯ จะต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งนี้ทุกฝ่ายยืนยันว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนและถูกบุกรุกชัดเจน ซึ่งได้ใช้เครื่องวัดพิกัดตรวจสอบแล้วยืนยันได้ทั้ง 8 แปลง ต้องดำเนินคดีแน่นอนเพราะถือว่าท้าทายอำนาจรัฐ และฝากถึงประชาชนที่คิดซื้อที่ดินบริเวณนี้ตรวจสอบให้ดีเพราะเขาค้อเกือบทั้งอำเภออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอย่าสนับสนุนใช้บริการที่พักรีสอร์ทที่มีปัญหา จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการบุกรุกเพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่แปลงอื่นที่ได้รับรายงานจากทหารก็จะต้องดำเนินคดีทั้งหมดโดยอาจจะแยกดำเนินคดีในส่วนของพื้นที่ แต่ถ้าแปลงใดมีปัญหา ดีเอสไอ ก็จะลงมาจัดการเอง สำหรับ 8 แปลงนี้ประกอบด้วย สาม ส. ทะเลหมอก อินเดียนวิว บ้านไร่ฝอยทอง ภูเพียงฟ้า บ้านกลางภู และไม่มีชื่ออีก 3 แห่ง จะเร่งดำเนินการให้เห็นผลโดยเร็วเพื่อทำการปลูกป่าตามโครงการ ต่อไป