ครูสาววัย 44 ปี ที่เพชรบูรณ์ขับรถนักเรียน เฉี่ยวยายกับหลานสาววัย 8 ขวบล้ม อ้างได้ยินเสียงคนตะโกนว่า “ถอย” เลยถอยรถปรากฏว่าทับศีรษะเด็กเสียชีวิต ด้านผู้ปกครองที่เข้าไปช่วยเด็ก ยืนยันตอนโดนเฉี่ยวล้มลงเด็กยังมีสติ ส่งมือมาให้จับ แต่ครูกลับถอยรถทับ ทั้งที่ตบประตูรถพร้อมตะโกนบอกว่าอย่าถอย
เวลา 08.00 น.วันที่ 14 มีนาคม ร.ต.อ.รัฐศานติ เพชรหมู่ พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลหล่มสักว่ามีเหตุครูขับรถชนนักเรียน เด็กหญิงอายุ 8 ขวบ ถูกรถยนต์ทับเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณในโรงเรียนพ่อขุนผาเมืองอุปถัมภ์ หมู่ 1 ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก พบกองเลือดกองใหญ่อยู่ริมถนนหน้าต้นไทรในโรงเรียน และรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อฟอร์ดแบบแค็บสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผค 1501 เพชรบูรณ์จอดอยู่ คนขับนางรัชฐญา ธารีพฤกษ์ อายุ 44 ปี ให้ปากคำว่า ขับรถเข้ามาในโรงเรียนและกำลังเลี้ยวขวาเพื่อไปที่จอด ได้ยินเสียงคนเคาะประตูจึงถอยรถและรู้สึกว่าทับวัตถุอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงลงจากรถยนต์ฝั่งซ้ายและไปนั่งสงบจิตใจข้างทางเพราะตกใจที่มีคนบอกว่าเหยียบเด็กนักเรียนเสียชีวิต
สอบสวนนางหนูเพี้ยม สุขราช อายุ 71 ปี ราษฎรหมู่ 3 ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก ยายของผู้เสียชีวิตทราบว่าหลานที่ตายชื่อเด็กหญิงศศิกานต์ หรือน้องฟางข้าว นะราชา อายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้น ป.2 ตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ ตนไปส่งหลานที่โรงเรียน และถูกรถยนต์ของ นางรัชฐญา ธารีพฤกษ์ ซึ่งเป็นครูชน และถอยทับจนเสียชีวิตภายในรั้วโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางหนูเพี้ยม แต่กลับถูกผู้อำนวยการโรงเรียนพ่อขุนผาเมืองอุปถัมภ์ เข้ามาพยายามห้ามปรามไม่ให้สัมภาษณ์ โดยอ้างว่าญาติกำลังเสียใจ แต่นางหนูเพี้ยมได้ให้การและเล่าว่า มาส่งหลานที่โรงเรียน ขณะเดินอยู่นั้นได้ถูกรถของครูขับมาด้านหลังได้เฉี่ยวและทับหลานต่อหน้าต่อตา เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากตนได้แต่ร้องไห้เสียใจทำอะไรไม่ถูก หลังเกิดเหตุยังไม่เคยเห็นหน้าครูคนที่ขับรถเลย อยากให้พูดความจริงและรับผิดชอบ และไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นภายในโรงเรียน
ขณะที่นายสน วงพวง อายุ 66 ปี ราษฎรหมู่ 5 ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ไปส่งหลานสาวซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องฟางข้าว ขณะกำลังจะเดินพาหลานไปเข้าแถวในโรงเรียน จู่ๆ รถของครูก็ขับเลี้ยวเข้ามา และเฉี่ยวยายกับหลาน ก่อนที่น้องฟางข้าวจะล้มลง และถูกล้อหน้ารถทับ ตนรีบเข้าไปหาและน้องฟางข้าวได้จับมือตนไว้ ร้องเรียกตนว่าพ่อได้ 3 ครั้ง และมีเสียงคนตะโกนจากอีกด้านฝั่งซ้ายของรถว่าให้ถอย ตนจึงตบประตูรถฝั่งคนขับและพูดว่าถอยทำไม แต่ก็ไม่ทันแล้วรถปิกอัพได้ถอยกลับมาเหยียบศีรษะน้องฟางข้าวอีกครั้งทำให้น้องแน่นิ่งในทันที หลังน้องถูกรถทับครั้งที่สองตนได้คว้าก้อนหินเตรียมทุบคนขับรถแล้วแต่เปิดประตูออกมาเป็นผู้หญิงจึงพูดไม่ออก จากนั้นคนขับรถได้ปีนลงฝั่งซ้ายของประตูและไม่เดินมาดูร่างของน้องเลย จนมีพลเมืองดีโทรเรียก อบต.บ้านหวาย มาช่วยนำร่างน้องส่งโรงพยาบาลหล่มสัก ส่วน ผอ.โรงเรียนเดินมาดูแล้วก็ไปนั่งนิ่งอีกฝั่งของรถโดยไม่มาดูดำดูดี และไม่พูดจากับใครเลย ก็ไม่รู้ว่าครูโทรศัพท์ขณะขับรถหรือเปล่าจึงมองไม่เห็นยายกับหลานที่กำลังเดินอยู่ข้างทาง ตนขอยกมือไหว้ ช่วยให้ความเป็นธรรมกับน้องฟางข้าวด้วยเพราะเป็นเพื่อนกับหลานสาว รักเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง
ด้านนายสาลี พั้วทัด อายุ 51 ปี อยู่หมู่ 3 ต.บ้านหวาย อ.หล่มสักญาติของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำสอง เพราะลูกหลานยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้อีก 2 คน อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าในโรงเรียนควรเป็นที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่ครูจะมาขับรถเร็วๆ รีบร้อนประมาทจนเหยียบเด็กเสียชีวิตแบบนี้ ขณะที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เพราะคนขับรถยังอยู่ในอาการตกใจ คาดว่ารอให้จัดงานศพให้เรียบร้อยจึงจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน ส่วนรถยนต์ไม่มีรถคู่กรณี จึงให้ตรวจสภาพและนำรถกลับไปใช้งานต่อได้
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook