วันนี้(29 มี.ค.) นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและดูปริมาณน้ำในอ่างกักเก็บน้ำห้วยป่าแดง โดยรับฟังบรรยายสรุปที่โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ จาก นายพัลพงษ์ วิเศษจินดา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ ได้รายงานว่า สถานการณ์น้ำในอ่างกักเก็บน้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้ง 8 แห่ง ในภาพรวมมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็น ซึ่งน้ำสำหรับการเกษตรในพื้นที่ชลประทานนั้น ได้จ่ายให้ครบแล้ว และได้ทำการสำรองน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาได้ถึงเดือนกรกฎาคม นี้เท่านั้น อ่างกักเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก ได้แก่ อ่างกักเก็บน้ำห้วยป่าแดง เหลือเพียง 19 เปอร์เซ็น อ่างกักเก็บน้ำเฉลียงลับ เหลือเพียงแค่ 13 เปอร์เซ็น ส่วนเกษตรอำเภอเมือง รายงานว่า ขณะนี้ได้ประกาศงดปลูกพืชฤดูแล้งแล้ว ส่วนผลผลิตของเกษตรกรก็กำลังจะเก็บเกี่ยวจึงไม่มีความเสียหาย จากนั้นได้ตรวจดูสภาพน้ำในอ่างห้วยป่าแดง ปรากฏว่าปริมาณน้ำเหลือน้อยมากจนไม่สามารถจ่ายให้กับกองพลทหารม้าที่ 1 ได้ และได้ตรวจดูสถานการณ์น้ำที่อ่างป่าเลา ปรากฏว่าน้ำในอ่างได้แห้งเกือบหมดไม่สามารถนำมาใช้ได้ ส่วนที่อ่างเฉลียงลับ ตำบลนาป่า ก็ไม่ต่างจากที่อื่นคงเหลือน้ำน้อยมากเช่นกัน นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้เริ่มเข้าสู่วิกฤต น้ำในอ่างแต่ละแห่งใกล้จะหมด จึงได้ให้ชลประทานดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะน้ำด้านการเกษตร มีความเป็นห่วงมาก เนื่องจากนโยบายรัฐมีความดึงดูดใจจากโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชและทำนาข้าวในฤดูแล้งเป็นจำนวนมาก ปัญหาที่จะตามมาคือปัญหาการแย่งน้ำทำนา ปลูกพืช ดังนั้นต้องดูแลควบคุมให้ดี และต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด หากฝนทิ้งช่วงนานเกิน กรกฎาคม มีปัญหาแน่นอน จะไม่มีน้ำในการผลิตน้ำประปาจ่ายในเขตตัวเมืองเพชรบูรณ์‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook