“บิ๊กป้อม” นำทัพผู้บริหาร-สส.พปชร.ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ รับฟังความเห็นประชาชน หลังเปลี่ยน“ส.ป.ก. 4-01 เป็น โฉนดเพื่อการเกษตร ปลื้มผลักดันอุทยานศรีเทพ เป็นมรดกโลก”สำเร็จ
หลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีเดือนสิงหาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็เฟดตัวออกไปจากการเมือง ไม่ปรากฏตัวในกิจกรรมพรรค เช่น งานสัมมนาที่ สส. ทั้งพรรคยกกันไปที่ จ.ภูเก็ต หรือแม้แต่ไม่เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่สำคัญๆ อย่างเช่น การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เป็นต้น
ประกอบกับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าเจ้าตัวจะเป็นแค่หัวหน้าพรรคอย่างเดียว ไม่เล่นการเมืองแล้ว และเตรียมลาออกจาก สส. ให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้น
จนวันที่ 7 มกราคม 2567 พล.อ.ประวิตร ปรากฏตัวอีกครั้งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยสีหน้าสดใสและน้ำหนักที่ลดลงไปถึง 14 กิโลกรัม งานนี้มีเจ้าของพื้นที่อย่าง นายสันติ และ สส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขตยกจังหวัดมาต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส. อีกนับสิบคนที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมกิจกรรมพรรค พปชร. สัญจร
พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีกล่าวสวัสดีปีใหม่ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งขอบคุณชาวเพชรบูรณ์ที่เลือกพรรค พปชร. ยกจังหวัด และได้ให้นายสันติขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อชาวเพชรบูรณ์ พร้อมย้ำว่า พปชร. มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดิน การเกษตร น้ำ หนี้นอกระบบ เป็นต้น ซึ่งการมาสัญจรครั้งนี้ได้หยิบประเด็นเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน พื้นที่ป่า และที่ดิน ส.ป.ก.
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ตัวเองดูแลเรื่องน้ำมา น้ำไม่มีแล้งเลยสักจังหวัดเดียว และสส. ก็เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปหารือในสภา แล้วการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรก็จะเริ่มคิกออฟในวันที่ 15 มกราคมนี้
พล.อ.ประวิตร ยังย้ำว่าวิสัยทัศน์หลักของพรรคว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ และยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนตลอดไป” พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า กรณี UNESCO ขึ้นทะเบียนเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลกเป็นนโยบายของตน
จากนั้น พล.อ.ประวิตร เดินลงเวทีมาทักทายประชาชน ก่อนที่จะเริ่มการเสวนาเรื่องความเดือดและที่ดินทำกิน และมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามมาร่วมงานด้วย โดยมีเนื้อหาท่อนหนึ่งที่กล่าวบนเวทีว่า “นายครับ นัสทำได้แล้ว เราเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร” และหลังจากนี้จะผลักดันนโยบายโฉนดต้นไม้เพื่อให้ประชาชนด้วย
“บิ๊กป้อม” นำทีมผู้บริหาร – สส.พปชร.สัญจร จ.เพชรบูรณ์
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากนี้จะเดินสายทำกิจกรรม พปชร. สัญจรอีกหลายจังหวัด แต่ไม่ถือว่าเป็นการคัมแบ็ก เพราะที่ผ่านมาก็ทำงานให้พรรคมาตลอด แต่ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ทำกิจกรรมการเมือง หรือแม้แต่ประชุมสภา เพราะว่าเจ็บขาและเพิ่งหายได้สองวัน พร้อมปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องสัญญาณการปรับ ครม. และปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกไหมหรือพร้อมที่จะชิงนายกรัฐมนตรีไหม หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และบอกว่าเรื่องของรัฐบาลให้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐยังเข้มแข็งพร้อมทำงานเดินหน้าเพื่อประชาชน
พล.อ.ประวิตร
ขณะเดียวกัน อีกสองรัฐมนตรีของพรรคก็แยกกันมาลงพื้นที่ใน จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงเวลาเดียวกัน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส ก็เดินทางมาลงพื้นที่พบพี่น้องเกษตรกรและรับเรื่องร้องทุกข์ที่ จ.เพชรบูรณ์ วันที่ 6-7 มกราคม 2567 และพล.ต.อ.พัชรวาท ลงพื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook