LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการนำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับหน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่บ่อขยะชั่วคราวในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติเขาโปรกหล่น หมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเร็วๆนี้ หลังพบว่า พบปริมาณขยะเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นแหล่งรองรับขยะจากทุกพื้นที่ของเขาค้อ จนทำให้มีปัญหาเรื่องการกำจัดขยะ และอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ว่าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ และเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมจ.เพชรบูรณ์ มีความเห็นตรงกัน ควรนำขยะที่เกิดขึ้นบนเขาค้อทั้งหมด ขนไปทิ้งในพื้นที่นอกเขตป่าไม้ ที่มีการก่อสร้างอย่างถูกสุขลักษณะ มากกว่า ที่จะทิ้งไว้บนเขาค้อเพราะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม และทัศนียภาพของการท่องเที่ยว ทั้งนี้ พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ปัจจุบัน มีรีสอร์ทประมาณ 300 แห่ง และมีแนวโน้มก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม วิตกว่าการมีบ่อขยะบนพื้นที่ป่าต้นน้ำ อาจส่งผลกระทบในระยะยาว เพราะอาจมีสารพิษซึมลงใต้ดินและปะปนกับแหล่งน้ำธรรมชาติ
ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า เทศบาลตำบลแคมป์สนยุติการนำขยะไปทิ้ง ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.56 เนื่องจากได้ที่ฝังกลบขยะแห่งใหม่เป็นพื้นที่ป่าสงวนเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ห่างจากชุมชน และอยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการขยะหากพบว่ายังมีการกระทำความผิด กระทบต่อระบบนิเวศ และป่าไม้ จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ ตรวจสอบบ่อขยะภูทับเบิก ในพื้นที่ป่าสาธารณะกว่า 1 ไร่อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ว่าบ่อขยะแห่งนี้สร้างมาแล้วกว่า 4 ปี แต่เป็นการก่อสร้างไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ และยังไม่มีหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าไม่มีการคัดแยกขยะ โดยขยะจำนวนมากเหล่านี้ส่งผลกระทบสุขภาพของคนในพื้นที่ และหากมีการลักลอบนำขยะมาทิ้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีความผิดตามกฎหมาย อีกทั้งขยะเหล่านี้ยังจะส่งผลกระทบในระยะยาว ทั้งปัญหาน้ำเสียที่จะซึมลงไปในดิน ซึ่งพื้นที่สูงจะเป็นพื้นที่ต้นน้ำ และอาจมีสารพิษเจือปนในแหล่งน้ำได้
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook