จากกรณีที่สังคมออนไลน์แชร์และเสียดสีกฎและข้อห้ามวันสงกรานต์ 11 ข้อ จนเป็นที่สงสัยกันในวงกว้าง โดย 11 ข้อมีดังนี้
3. ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน หากฝ่าฝืน มีความผิดฐานสร้างความเดือดร้อน แต่หากมีการฝ่าฝืนข้อห้าม และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดดังต่อไปนี้
ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้เสียชีวิต : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตด้วย : ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย
5. ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
7. ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที โดยมีความผิดฐานกระทำการอนาจาร ต่อเด็กหญิง หรือสตรี
8. ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ หากเป็นการขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายให้ผู้ที่เมาอยู่แล้ว มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี
9. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ โดยในกรณีนี้ ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
10. ห้ามเล่นแป้ง หากพบ จะมีการตักเตือน แต่สำหรับผู้จำหน่ายแป้ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
11. ห้ามเมาแล้วขับรถ หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ล่าสุดพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกชี้แจงเรื่องนี้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีข้อห้ามในการเล่นสงกรานต์ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวทางตำรวจไม่ได้จัดทำ ประชาชนยังเล่นน้ำ นั่งหลังรถกระบะ ขายแป้ง และใช้ชีวิตได้ตามปกติ ที่เคยมีมา เพียงแต่อย่าเล่นน้ำจนเกินเลยหรือกระทำการที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการมาตรการป้องกันอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้กวดขันเอาผิดการห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มสุราในสถานที่ ช่วงเวลา และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางเท้า พร้อมกวดขันสถานบริการให้ดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่จัดให้มีการเต้นหน้าร้านและกวดขันจับกุมการแข่งรถในทางสาธารณะ กลุ่มบุคคลหรือวัยรุ่นมั่วสุมที่มีพฤติการณ์เป็นนักเลงอันธพาลเป็นภัยต่อสังคม โดยต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่กระทำความผิดในทุกกรณี‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook