เวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการเจาะสำรวจน้ำมันเพชรบูรณ์ถกกันเครียด ตัวแทนองค์กรเอกชนจี้นำเทคโนโลยีมาใช้แทนการเผาก๊าซทิ้งเฉยๆ แถมจวกบริษัทที่ปรึกษาอย่าชี้นำในเวทีรับฟัง ด้าน “รัฐเขต” ขนน้ำมันกลั่นแบบชาวบ้านโชว์เจอเบรก
รายงานข่าวจากจังหวัดเพชรบูรณ์แจ้งว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 จ.เพชรบูรณ์ ครั้งที่ 2 ของบริษัทอีโค่โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ มีนายไกรสร กองฉลาด ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน และมีตัวแทนจากองค์กรภาคเอกชน, หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น รวมถึงตัวแทนบริษัทรวมทั้งตัวแทนจากกรมเชื้อเพลิงเข้าร่วมชี้แจงเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์นั้น
ตัวแทนองค์กรภาคเอกชนได้ท้วงติงเรื่องการเผาก๊าชเพื่อให้น้ำมันดิบเป็นของเหลว ซึ่งทำให้เกิดมลพิษ พร้อมเสนอแนะให้นำเทคโนโลยีอื่นมาใช้แทน ซึ่งไม่เพียงผลิตไฟฟ้าได้เท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ขณะเดียวกันยังตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับเปลี่ยนบริษัทเพ้นท์โอเรียนท์ฯ มาเป็นบริษัทอีโค่ฯ มีนัยที่น่าสงสัย
นอกจากนี้ยังมีการท้วงติงบริษัทที่ปรึกษาที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น แต่กลับทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้บริษัทเอกชน จนกลายเป็นการชี้นำผู้เข้าร่วมเวที ซึ่งอาจทำให้ละเลยข้อเท็จจริงไป
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนกรมเชื้อเพลิง และตัวแทนบริษัทอีโค่โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวชี้แจงโดยปฏิเสธถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้แทนการเผาก๊าซว่ายังไม่คุ้มค่าในเชิงธุรกิจ ขณะเดียวกันก๊าซที่ได้จากหลุมเจาะน้ำมันก็มีปริมาณไม่เพียงพอ ส่วนประเด็นการเปลี่ยนผู้ลงทุนมาเป็นบริษัทอีโค่ฯ นั้นไม่มีนัยใดๆ ทั้งสิ้น และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมรับฟังความคิดเห็น พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส ตัวแทนองค์กรภาคประชาชนได้นำน้ำมันดิบ ก๊าซ รวมทั้งน้ำมันเบนซินที่ผ่านระบบการกลั่นแบบชาวบ้านมาโชว์ในเวที พร้อมจะทำการสาธิตวิธีการให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้กระบวนการเผา แต่นายไกรสร และตัวแทนบริษัท เกรงจะไม่ปลอดภัย ทำให้ พ.ท.รัฐเขตต้องนำอุปกรณ์ทั้งหมดมาสาธิตให้สื่อมวลชนชมดู หลังปิดเวทีการรับฟังความคิดเห็นแล้ว
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook