LINE : ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์

ยินดีต้อนรับสู่เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2024
ข่าวเด่นเพชรบูรณ์

พกปืนอย่างไรจึงไม่ผิดกฎหมาย

เรื่องอาวุธปืนกับผู้ชายนั้นเป็นของคู่กันมานานแล้ว ต่างนิยมชมชอบซื้ออาวุธปืนพก พร้อมทั้งกระสุนปืนมาไว้ในครอบครองเพื่อป้องกันตนเองและทรัพย์สิน เมื่อมีอาวุธปืนเป็นของตนเองแล้วมักจะมีปัญหาสอบถาม โต้เถียงกันอยู่เสมอๆ ในเรื่องการพกพาอาวุธปืน บางคนกล่าวว่ามีอาวุธปืนเป็นของตนเอง แต่ไม่มีใบพก (ป.๑๒) อย่ามีเสียเลยดีกว่า บางคนกล่าวว่าถึงแม้จะมีใบพกปืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะพกพาอาวุธปืนได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ หรือทุกกิริยาอาการ

564031564031

การที่จะพกอาวุธปืนได้โดยไม่ผิกฎหมายนั้น น่าจะมีหลักเกณฑ์ที่สําคัญ ๓ ประการ คือ

๑ เป็นอาวุธปืนของตนเองและได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย (มีใบ ป.๔) หรือจะเขียนเต็มๆ “ปืนมีทะเบียนและเป็นปืนของตนเอง”

๒ ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือกล่าวโดยย่อว่า “มีใบพก” (มีใบ ป.๑๒)

๓ ปฏิบัติตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายกําหนด หรือ “พกโดยข้อยกเว้นของกฎหมาย”

– หลักเกณฑ์ประการแรกคือ “ปืนมีทะเบียนและเป็นปืนของตนเอง” อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคลนั้น ผู้ใดประสงค์จะซื้อต้องปฎิบัติตามกฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กล่าวคือต้องขอรับใบอนุญาตตามแบบ ป.๑, มีใบอนุญาตให้ซื้อตามแบบ ป.๓ และมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ตามแบบ ป.๔ การออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กําหนดให้ออกได้ใน ๓ กรณีเท่านั้น คือ

๑. สําหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน

๒. ใช้สําหรับการกีฬา

๓. สําหรับใช้ในการล่าสัตว์

แต่มีบางประเด็นในเรื่องปืนมีทะเบียนที่หลายคนยังเข้าใจคลาดเคลื่อนไป กล่าวคือ เข้าใจว่าปืนมีทะเบียนย่อมเป็นปืนที่ถูกกฎหมายเสมอ ไม่ว่าใครจะนําไปใช้หรือครอบครองไว้ จึงปรากฎอยู่เสมอว่าบางคน นําปืนมีทะเบียนของผู้อื่นมาไว้ในครอบครองโดยเข้าใจผิดว่าไม่ผิดกฎหมาย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมก็ยังโต้เถียงว่าไม่ผิด เรื่องนี้ขอเรียนว่า ตามหลักกฎหมายใน พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ นั้น การออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ออกให้กับผู้มีชื่อในใบ ป.๔ และออกให้ ๑ ใบ ต่ออาวุธปืน ๑ กระบอกเท่านั้น ผู้อื่นแม้จะเป็นบุตร ภรรยาก็ไม่อาจใช้สิทธินั้นได้ ดังนั้นการที่มีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครอง กล่าวคือถ้าปืนที่มีไว้ในครอบครอง เป็นปืนที่ไม่มีทะเบียน (บางท่านเรียกว่า “ปืนเถื่อน”) ผู้ครอบครองจะต้องรับโทษน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง คือต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ ๖ เดือน-๕ ปี และปรับตั้งแต่ ๑,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ 

พกปืนอย่างไร……ไม่ให้ตำรวจจับ ?

ไม่ได้เป็นการชี้โพรงให้กระรอก หรือผู้ที่คิดจะกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
แต่เป็นการแนะนำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั่วไปทราบเพื่อเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในชีวิตจริง

ตามบันทึก ตร.ที่ 0501/30476 ลง วันที่ 11 ธันวาคม 2517 กำหนดแนวทางในการปฏิบัติของข้าราชการ ตำรวจ ให้ใช้ดุลพินิจในการตรวจค้น จับกุม ผู้พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะสถานให้เป็นการถูกต้องตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 371 ได้บัญญัติไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลง วันที่ 21 ตุลาคม 2519 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ขึ้นอีก ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันยังคงมีปัญหา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยมีเพียงใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนติดตัว ก็มักจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีทุกรายไป ทำให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ที่ ถูกตรวจค้นและจับกุม

ตามบทบัญญัติ มาตรา 8 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลง วันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3 กำหนดว่า ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผยหรือไปในที่ชุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อ นมัสการ การรื่นเริง การมหรสพหรือการอื่นใด

ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากฎหมายยังคงเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์นำอาวุธปืนที่ตนมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพานำติดตัวไปเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายให้กระทำได้ ตามแนวคำชี้ขาดไม่ฟ้องของอธิบดีกรมอัยการเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะสถานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้พกพาจากเจ้าพนักงาน ซึ่งถือว่าโดยสภาพเป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ มีแนวทางพอสรุปได้ดังนี้คือ

1. ถ้าได้นำอาวุธปืนใส่กระเป๋าเก็บไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด
2. เอาอาวุธปืนใส่กระเป๋าใส่กุญแจแล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีทันใด
3. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด จำนวนเป็นหมื่นๆ นำติดตัวมาแล้วมีอาวุธปืนได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้วใส่ไว้ในช่องที่เก็บของหนห้ารถยนต์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์
4. ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด นำอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยแยกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้ที่พนักเบาะหลังรถยนต์
5. ห่ออาวุธปืน และแหนบบรรจุกระสุน (แม็กกาซีน) แยกออกคนละห่อเก็บไว้ในกระโปรงท้ายรถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ’>

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวเด่นเพชรบูรณ์ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด