โฆษกทัพฟ้ายันทุกอย่างเรียบร้อย ไม่เสียหายร้ายแรง เตรียมทำพิธีปิดโครงการ 11 ก.ย.นี้
เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 4 ก.ย. พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ขณะนี้เครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ กริพเพน 39 ซี ลำที่ 3 ซึ่งถูกฟ้าผ่าขณะกำลังบินอยู่บนน่านฟ้าประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมาได้เดินทางถึงกองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว โดยก่อนหน้านั้น เครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ กริพเพน 39 ซี 2 ลำแรกได้เดินทางถึงกองบิน 7 โดยจากการตรวจสอบพบว่าเครื่องบินลำที่ถูกฟ้าผ่ามีระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้อง แต่โครงสร้างของเครื่องบินไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งคู่มือประจำเครื่องบินกริพเพนที่ทางประเทศสวีเดนได้กำหนดไว้ว่า กรณีฟ้าผ่าเครื่องบินขณะทำการบิน เมื่อลงมาที่พื้นต้องมีการถอดเปลี่ยนอุปกรณ์บางชนิด ไม่ว่าจะยังใช้งานได้อยู่หรือไม่ ช่างต้องทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นนั้นทันที โดยนำอุปกรณ์อะไหล่สำรองที่บรรทุกมากับเครื่องบิน ซี-130 ที่เป็นเครื่องบินพี่เลี้ยงบินตามมากับเครื่องบินกริพเพนทั้ง 3 ลำมาเปลี่ยน
“ยืนยันว่าเครื่องบินกริพเพนไม่ได้มีอะไรเสียหายร้ายแรง มีเพียงแค่อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายเล็กน้อย โดยทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้รับทราบขั้นตอนทุกอย่าง สั่งให้ดำเนินการทุกอย่างให้เรียบร้อย สำหรับขั้นตอนความรับผิดชอบในการบินนำส่งเครื่องบินกริพเพนทั้ง 3 ลำ เป็นความรับผิดชอบของสวีเดน โดยทางสวีเดนจะดำเนินการแก้ไขให้เสร็จก่อนส่งมอบให้กองทัพอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อมาถึงกองบิน 7 แล้ว ทางคณะกรรมการตรวจรับของกองทัพอากาศจะตรวจเช็คสภาพอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผ่านคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในสัญญาซื้อขายหรือไม่ ก่อนที่จะมีการปิดโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.ย.นี้ โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ที่กองบิน 7” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว
ขณะที่น.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้บังคับการกองบิน 7 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นภายหลังจากที่เครื่องบินกริพเพนทั้ง 3 ลำเดินทางมาถึงกองบิน 7 พบว่าตัวเครื่องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ 100 % คาดว่าคณะกรรมการตรวจรับที่มี พล.อ.ท. พลเทพ โหมดสุวรรณ รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นประธานจะใช้เวลาไม่ถึง 10 วันก็คงจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือว่าคุ้มค่าและทันสมัยที่สุดของกองทัพอากาศ
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook