ชาวบ้านฮือไล่กลุ่ม”ผรท.เพชรบูรณ์” ลักลอบจับจองพื้นที่ป่ากันชน หน.ทุ่งใหญ่นเรศวรเผยตรวจสอบยังไม่พบการจับจองพื้นที่
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม กรณีชาวบ้านพื้นที่บ้านจะแก ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อ้างว่ามีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจาก จ.เพชรบูรณ์ พยายามเข้าไปจับจองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ หมู่ 6 บ้านจะแก เป็นพื้นที่ป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นั้น
นางสาววีรยา โอชะกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี เผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) จาก จ.เพชรบูรณ์ ประมาณ 50 คน โดยสารมากับรถกระบะจำนวน 7 คัน โดยมีสมาชิก อบต.ไล่โว่ คนหนึ่งเป็นผู้นำทางเข้าพื้นที่ เส้นทางที่คณะดังกล่าวต้องผ่านก่อนถึงพื้นที่เป้าหมาย คือ หน่วยพิทักษ์ป่าสะเน่พ่อง หมู่ 1 ต.ไล่โว่ อยู่ในความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยเจ้าหน้าประจำหน่วยได้ขอตรวจสอบ ทางผู้นำคณะจึงยื่นเอกสารที่ออกโดย อบต.ไล่โว่ มีใจความว่าขอความร่วมมือให้คณะดังกล่าวผ่านเข้าพื้นที่ เพื่อไปร่วมพิธีทอดผ้าป่าที่วัดปางสนุก หมู่ที่ 6 ต.ไล่โว่ ลงนามโดยนายก อบต.ไล่โว่
นางสาววีรยากล่าวต่อว่า ต่อมามีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งมาว่ากลุ่มคนดังกล่าวพยายามเข้ามาจับจองพื้นที่ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ โดยชาวบ้านได้พยายามผลักดันกลุ่มคนดังกล่าวออกไปจากพื้นที่ และในที่สุดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มคนดังกล่าวได้กลับออกมา หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านอีกว่ายังมีกลุ่มคนดังกล่าวส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่และดำเนินการลักลอบแผ้วถางป่าดังกล่าวเพื่อเข้าจับจอง ทำให้เมื่อวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งสอบถามชาวบ้าน ปรากฏว่าไม่พบร่องรอยการจับจองพื้นที่แต่อย่างใด
“สำหรับป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ เป็นป่ากันชน เป็นป่ารอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรกับประเทศพม่า มีเนื้อที่ประมาณ 68,000 ไร่ เดิมเป็นพื้นที่สัมปทานของเหมืองแร่พุจือ ปัจจุบันหมดอายุแล้ว พื้นที่โดยทั่วไปค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมผนวกเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แต่ยังคงติดขัดในเรื่องของกระบวนการ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบและยินยอมให้ดำเนินการผนวกป่าดังกล่าวจากชุมชนเสียก่อนจึงจะสามารถผนวกเป็นเขตทุ่งใหญ่นเรศวรได้ ปัจจุบันทางชุมชน และ อบต.ไล่โว่ มีความเห็นให้ชะลอการผนวกไว้ก่อน” นางสาววีรยากล่าว และว่า ส่วนพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมีเนื้อที่ประมาณ 1.3 ล้านไร่เศษ หากผนวกกับผืนป่าดังกล่าวอีก 68,000 ไร่ จะรวมเป็นเนื้อที่ประมาณ 1.4 ล้านไร่ จะทำให้ง่ายต่อการควบคุมดูแลรักษาผืนป่า แต่ในเมื่อยังไม่สามารถผนวกผืนป่าเข้าด้วยกันได้ จึงอาจเป็นช่องว่าง เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ดังนั้น การเอาผิดกับผู้กระทำผิดจึงอาจไม่เข้มข้น
“ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เขตทุ่งใหญ่นเรศวรได้จัดส่งชุดลาดตระเวนจำนวน3 ชุด รวมประมาณ 30 นาย และเจ้าหน้าที่สายตรวจคอยสอดส่องดูแลพื้นที่ป่าสงวนเตรียมการผนวกดังกล่าว โดยสกัดกั้นเป็นแนวรั้ว แต่เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมาย จึงทำได้เพียงเดินลาดตระเวนตรวจตราอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม พื้นที่รอยต่อผืนป่าสงวนดังกล่าว มีหน่วยพิทักษ์ป่า รวม 3 หน่วย ได้แก่ หน่วยพิทักษ์ป่าเดอลู่ หน่วยพิทักษ์ป่าลังกา และหน่วยพิทักษ์ป่าจะแก จะเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำผิดบริเวณนั้นอีกทางหนึ่ง”
นางสาววีรยากล่าวว่า เขตทุ่งใหญ่นเรศวรได้มีการดำเนินการในเรื่องของการจัดการพื้นที่ป่าอย่างมีส่วนร่วม ขณะที่ประชาชนทำการเกษตรในลักษณะไร่หมุนเวียน จึงไม่เกิดปัญหาในการบุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมแต่อย่างใด
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทส. เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องการบุกรุกของกลุ่มม้งแล้ว ได้ประสานข้อมูลไปยังกรมป่าไม้ ให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรสนธิ
กำลังลาดตระเวนป้องกันพื้นที่แบบเข้มข้น ป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าบริเวนดังกล่าว นอกจากนี้ ยังจัดชุดกำลังหาข่าวในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อหาตัวคนที่ชักชวนชาวม้งเข้าไปในพื้นที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะพื้นที่ป่าเขาฤาษีและป่าเขาบ่อแร่อยู่ห่างไกลเกินไปหรือไม่ จึงไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล นายธีรภัทรกล่าวว่า บริเวณดังกล่าวเคยทำเหมืองแร่ เมื่อประทานบัตรหมดอายุ กลายเป็นพื้นที่ป่าสงวน กรมป่าไม้ขาดกำลังคนเข้าไปดูแล แต่ในพื้นที่ใกล้เคียง มีหน่วยพิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเข้าไปช่วยดูแลได้ ยอมรับว่าเป็นพื้นที่ห่างไกล อยู่ติดชายแดนไทยพม่า การเดินทางลำบาก โดยเฉพาะในหน้าฝนต้องเดินเท้าอย่างเดียว
นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เคยเสนอให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ผนวกพื้นที่ป่าเขาฤาษีกับป่าเขาบ่อแร่เข้ากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมานานเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากรมป่าไม้ไม่มีศักยภาพในการดูแลพื้นที่ เหตุผลหลักคือ ขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเวลานี้คือ เร่งรัดขั้นตอนการผนวกป่า เพื่อให้ป่าเขาฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ เป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยเร็ว เจ้าหน้าที่จะได้มีอำนาจเข้าไปดูแลบริหารจัดการเต็มที่ มูลนิธิสืบฯได้ทำหนังสือถึงกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อเสนอแนะวิธีการจัดการพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ให้มีมาตรการในการปกป้องพื้นที่อย่างยั่งยืนโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม
“ข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบฯที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานใน จ.กาญจนบุรี พบว่ามีชาวม้ง จ.เพชรบูรณ์ เข้าไปบุกรุกป่าหลายพื้นที่ หรือกรณีที่ไม่บุกรุก มีการครอบครองอย่างถูกต้อง เช่น การเข้าไปเช่าที่ชาวบ้านก็สร้างปัญหามากมาย ล่าสุดรับแจ้งว่าชาวม้งไปเช่าพื้นที่กรรมสิทธิ์ของชาวบ้าน ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯกันออกมาให้ก่อนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี คนกลุ่มนี้ได้เข้าไปปลูกผัก โดยเฉพาะกะหล่ำปลี มีการใช้สารเคมีทั้งปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงเข้มข้นมาก บริเวณดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำแควน้อยแควใหญ่ที่ไหลลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ด้วย” นายศศินกล่าว
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook