พบแล้ว!’พุทธิศักดิ์คลินิก’เป็นวัด-พระจริง

          ความคืบหน้าเครือข่ายชมรมคนรักพระพุทธศาสนา โพสต์ภาพในโซเชียลมีเดียแฉพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์นั่งทำพิธีกรรมปิดแผ่นทองคำลงบนหน้าหญิงสาววัยกลางคน และบุคคลแต่งกายคล้ายแม่ชี โดยท้ายภาพระบุชื่อ “พุทธิศักดิ์คลินิก” ซึ่งเรื่องดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมหากชายดังกล่าวเป็นพระภิกษุจริง โดยก่อนหน้านี้ นายสงกรานต์ อัจริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้ตรวจสอบความเป็นมาของภาพดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ได้เห็นภาพและตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ทำให้ทราบเบาะแสว่า เหตุการณ์ดังกล่วเกิดขึ้นที่วัดซับอุดมมงคลธรรม ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จึงสั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าคณะตำบล พบว่า เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวติดกิจนิมนต์ในต่างประเทศ จะกลับมาวันที่ 30 มีนาคม

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพระลูกวัดทราบข้อมูลว่า รู้จักพระ 1 รูป ที่อยู่ในภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นพระต่างด้าวเคยมาบวชและอยู่ที่วัดประมาณ 3 วัน แต่สึกไปแล้ว ส่วนพระรูปอื่นทางพระลูกวัดแจ้งว่าไม่รู้จัก คาดว่าน่าจะเป็นพระจากวัดอื่น ส่วนสถานที่ในการประกอบพิธีนั้น ขณะนี้เจ้าอาวาสไม่อยู่ จึงยังเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ พศ.จึงต้องประสานกับเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด เพื่อขออำนาจในการสั่งการเปิดกุฏิภายในวัด เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง คาดว่าไม่เกินวันที่ 26 มีนาคมนี้

“หากกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าจัดพิธีกรรมดังกล่าวภายในวัดนี้ จะต้องให้เจ้าอาวาสดำเนินการชี้แจง ส่วนฐานการกระทำผิด หากเป็นพระสงฆ์ถือว่าทำผิดพระธรรมวินัย ต้องกายสตรีเพศยิ่งถือไม่เหมาะสม หากอวดอ้างสรรพคุณว่าทำแล้วมหาเสน่ห์ คนรักคนหลง ก็เข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม มีความผิดถึงขั้นปาราชิกได้ ส่วนทางโลกถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย” ผอ.พศ.กล่าว

ด้าน นายสงกรานต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากเบาะแสของเครือข่าย พบว่า บุคคลที่อยู่ในภาพที่ได้นำเสนอผ่านสื่อมวลชนไปแล้วนั้น เป็นพระสงฆ์จริง รวมทั้งทราบต้นตอแล้วว่าอยู่ที่ไหน จังหวัดใด ดังนั้นขอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองปราบปรามในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เพื่อประสานดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่ในภาพเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หากเป็นพระสงฆ์ก็เข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายเห็นหน้าอย่างชัดเจน

“ขณะนี้มีประชาชนแจ้งเบาะแสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมจะให้รางวัลนำจับสำหรับผู้แจ้งเบาะแส จำนวน 5,000 บาท นอกจากนี้ผมยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เปิดกระทำพิธีกรรมในรูปแบบนี้อีก 8 แห่ง และได้ส่งเครือข่ายไปดำเนินการติดตามและเก็บข้อมูลแล้ว โดยจะนำมาเปิดเผย สถานที่ จังหวัด อย่างละเอียดอีกครั้งที่กองปราบปราม ผมขอฝากเตือนไปยังสำนัก หรือวัด ที่กระทำไม่เหมาะสมเช่นนี้อยู่ ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว หากอยากทำเช่นนี้ ถ้าเป็นพระสงฆ์ให้สึกเสียดีกว่า เพราะจะไม่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย อีกทั้งจะประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในการร่วมหาข้อมูลและไปร่วมดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป” ประธานเครือข่ายฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามนางศิริพร เรืองวงษ์ ผู้อำนวยการ พศจ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดซับอุดมมงคลธรรม พบว่าทางเจ้าอาวาสวัดซับอุดมมงคลธรรม ติดกิจนิมนต์ที่ประเทศมาเลเซีย ทางผู้อำนวยการ พศจ.เพชรบูรณ์ จึงได้นำภาพพิธีกรรมดังกล่าวไปสอบถามพระลูกวัดแทน ทราบข้อมูลว่ารู้จักพระ 1 รูปที่อยู่ในภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นพระต่างด้าวเคยมาบวชที่วัดนี้แต่ก็ได้สึกไปแล้ว ส่วนพระรูปอื่นพระลูกวัดแจ้งว่าไม่รู้จัก ส่วนสถานที่ที่ใช้จัดพิธีกรรมนั้นยังไม่สามารถยืนยันว่าเกิดขึ้นที่ไหน ทั้งนี้ทาง พศจ.จะรอเจ้าอาวาสวัดเดินทางกลับมาจากกิจนิมนต์ก็จะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง