ตำนานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ปกป้องเมืองเพชรบูรณ์ … เณรมั่น เณรคง !
ดร.วิศลย์ โฆษิตานนท์
การสร้างกำแพงเมืองที่มั่นคงถาวรก่ออิฐถือปูนเริ่มมีขึ้นมาตั้งแต่สมัยกลางกรุงศรีอยุธยา ฯ กำแพงเมืองจะประกอบด้วยแนวกำแพง ป้อมปราการและประตูเมืองในแต่ละด้านทั้ง 4 ด้าน โดยประตูเมืองด้านตะวันตกเป็นประตูที่มีสำคัญประการหนึ่ง เรียกว่า”ประตูผี” เพราะเป็นประตูที่ใช้ขนศพคนตายออกไปนอกเมือง และเป็นประตูที่กองทัพทหารจะเดินทัพออกจากเมืองไปสู้รบในศึกสงคราม ทั้งนี้ เพื่อเป็นเคล็ดว่า ทหารทุกคนได้ตายไปหมดแล้ว จึงสู้รบได้อย่างไม่ต้องกลัวตายอีก … ตรงกับประตูผีนั้น จะต้องเป็นที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของเมือง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันยันไว้ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายหรืออัปมงคลเข้ามาในเมืองได้
กำแพงโบราณของเมืองเพชรบูรณ์ได้ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยกลางกรุงศรีอยุธยา ฯ เช่นกัน คือประมาณ 400-500 ปีที่แล้ว ประกอบด้วยแนวกำแพงเมืองทั้ง 4 ด้าน มีป้อมปราการทั้ง 4 มุม และมีประตูเมืองอยู่กึ่งกลางกำแพงแต่ละด้านทั้ง 4 ทิศ .. โดยมีป้อมประตูชุมพล เป็นป้อมประตูที่ทางทิศตะวันตกของเมือง
ป้อมประตูชุมพลแห่งนี้ เป็นที่เชื่อตามตำนานที่คนเพชรบูรณ์เล่าขานกันสืบต่อมาว่า เป็นที่ฝั่งทั้งเป็น เณรมั่น เณรคง
มีตำนานเล่าสืบทอดกันมาและเป็นเรื่องเล่าที่ตรงกันในสถานที่หลาย ๆ แห่ง นั่นคือ ในสมัยก่อนเมื่อจะมีการสร้างเมือง ซึ่งจะต้องสร้างประตูเมืองและกำแพงเมืองพร้อมกันด้วยนั้น ได้มีคติความเชื่อในสมัยนั้นว่า จะต้องนำคนมาฝั่งทั้งเป็นไว้ที่ประตูเมืองเพื่อเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เฝ้าปกปักรักษาเมือง โดยจะใช้คนที่มีชื่อว่า อินทร์ จันทร์ มั่น คง อยู่ ดี …
การสร้างเมืองเพชรบูรณ์ก็เช่นเดียวกัน เจ้าเมืองได้ประกาศให้หาคนมาฝั่งทั้งเป็นที่ประตูด้านทิศตะวันตกแห่งนี้ แต่เนื่องจากเพชรบูรณ์เป็นเมืองเล็ก จึงทำให้หาคนที่มีชื่อตามต้องการได้ลำบาก จึงให้ประกาศให้หาเฉพาะ ชื่อมั่นและชื่อคง … แม้กระนั้นก็ดี การหาคนชื่อมั่น ชื่อคง ก็ยังหายากมาก เหล่าทหารได้ออกค้นหามาหลายวันก็ยังไม่พบ จนถึงวันกำหนดพิธีซึ่งจะต้องจัดตอนเที่ยง ..
เวลาใกล้เพล เหล่าทหารก็ประกาศหา คนชื่อมั่น ชื่อคง มาจนถึงวัดไตรภูมิ ตะโกนว่า “กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ๊ย … ใครชื่อมั่นชื่อคง ให้ออกมาหน่อย” ก็มีเณร 2 รูปที่กวาดลานวัดอยู่ในวัดไตรภูมิตะโกนขานรับออกมา “โว้ย…” เหล่าทหารจึงรีบเขาไปคุมตัวจะนำมาเข้าพิธี เจ้าอาวาสเห็นเช่นนั้นก็ได้ออกมาห้ามปราม แต่เหล่าทหารได้อธิบายความจำเป็นที่จะต้องนำตัวไปร่วมพิธีเพื่อบ้านเพื่อเมืองดังกล่าว … เจ้าอาวาสเห็นเป็นเช่นนั้น ก็ยอม แต่ขอให้เณรทั้ง 2 ได้ฉันเพลก่อนแล้วค่อยนำตัวไป … แต่เหล่าทหารเห็นว่า เวลาใกล้จะเริ่มพิธีแล้ว จึงได้นำตัวไปทันทีโดยไม่ยอมให้ฉันเพล … ทำให้เจ้าอาวาสโกรธ และสาปแช่งเจ้าเมืองเพชรบูรณ์ทุกคนไว้ว่า เจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนใดครองเมืองเพชรบูรณ์เกินกว่า 3 ปี ขอให้มีอันเป็นไป … จากนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนใดครองเมืองเกินกว่า 3 ปีแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งทุกวันนี้
ส่วนดวงวิญญาณเณรมั่น เณรคง ก็ได้สิงสถิตอยู่ที่ประตูเมือง เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ให้การปกปักรักษาและให้พรแก่คนเพชรบูรณ์มาช้านาน โดยคนเพชรบูรณ์ได้สร้างศาลไว้ที่บนป้อมประตูเมืองด้วย และคนรุ่นเก่า ๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองจะรู้ดีถึงเรื่องนี้ มีการไปขอพร บนบานศาลกล่าวต่าง ๆ และเมื่อผ่านไปมาก็จะยกมือไหว้กันทุกคน จนทุกวันนี้ …
ป้อมประตูชุมพลที่อยู่ทิศตะวันตกของเมืองนี้ ปัจจุบันจะเห็นเป็นซากโบราณสถานที่ก่อด้วยอิฐประกอบด้วยหินทราย ตั้งอยู่ที่บริเวณใกล้สี่แยกถนนเพชรรัตน์ ทางไปวัดไตรภูมิและตั้งตรงกันกับวัดไตรภูมิพอดี …
อนึ่ง .. การฝังคนทั้งเป็นเพื่อให้เป็นวิญญาณเฝ้าเมืองนั้น เป็นคติความเชื่อในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีอิทธิพลความเชื่อมาจากศาสนาพราหมณ์ ซึ่งก็ตรงกับหลักฐานทางประวิติศาสตร์ของช่วงเวลาในการก่อสร้างกำแพงเมืองเพชรบูรณ์
ส่วนที่ศาลหลักเมืองปัจจุบันนี้ ก็ตั้งอยู่บนป้อมปราการเช่นเดียวกัน แต่เป็นมุมกำแพง ไม่ใช่ประตูเมือง … ซึ่งเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์นี้ ตามหลักฐานของกรมศิลปากร เพิ่งมีการปักเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2443 นี่เอง .. ซึ่งตอนนั้น บ้านเมืองเรานับถือศาสนาพุทธแล้ว จึงคงจะไม่มีการฝังคนทั้งเป็นอย่างเด็ดขาด … เณรมั่นเณรคง จึงไม่ได้ถูกฝังอยู่ที่ศาลหลักเมืองในปัจจุบันนี้แต่อย่างใด … หากแต่เมื่อมีการตั้งเสาหลักเมืองขึ้นมา ก็อาจจะมีการอัญเชิญดวงวิญญาณเณรมั่นเณรคงไปสถิตอยู่ที่ศาลหลักเมืองดังกล่าวในภายหลัง ก็อาจเป็นได้ครับ
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook