สำรวจ ‘หมู่บ้านอุ้มบุญ’ ที่เพชรบูรณ์ พบชาวบ้านส่วนใหญ่ยากจน เชื่อว่าทำแล้วได้บุญได้กุศล และยังได้เงินมาใช้จ่าย เผยแม่มีอุ้มบุญที่ยังอุ้มท้องอยู่ 10 รายเหลืออยู่ในหมู่บ้านรายเดียว แต่เพิ่งหนีเข้า กทม.หลังตกเป็นข่าว
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการรับจ้างอุ้มบุญของหญิงสาวในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยนายคณีธิป บุณยเกตุ รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้จนท.พัฒนาสังคมฯ ลงพื้นสำรวจแม่อุ้มบุญว่ามีจำนวนเท่าใด และยังคงหลงเหลือแม่อุ้มบุญที่ยังอุ้มท้องอยู่อีกเท่าใด เพื่อเตรียมหาทางช่วยเหลือในกรณีที่สถานพยาบาลถูกปิด หรือถูกทอดทิ้ง รวมถึงสอบถามข้อมูลว่า หญิงอุ้มบุญมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร มีความขัดสนลำบากในการหาเลี้ยงชีพหรือไม่ รวมถึงประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจถึงกระบวนการอุ้มบุญ ว่าที่ถูกต้องและที่ผิดกฎหมายนั้นเป็นอย่างไร รวมทั้งผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดกับแม่อุ้มบุญและทารก
ล่าสุด ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสมยศ รอดแช่ม นายอำเภอหล่มสัก นายอำนาจ พูนยอด ปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้นำคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นางเกษร วงศ์มณี สาธารณสุขอำเภอหล่มสัก และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สำรวจแม่อุ้มบุญในหมู่บ้าน ซึ่งพบว่า ต.ปากช่อง 4 หมู่บ้าน มีหญิงสาวเป็นแม่อุ้มบุญทั้งหมด 24 ราย เป็นหญิงสาวที่อุ้มบุญจนคลอดลูกไปแล้ว 14 ราย เหลือยังคงอุ้มท้องอยู่อีก 10 ราย โดยในจำนวนแม่อุ้มบุญที่ยังอุ้มท้องอยู่นั้น ได้อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ 8 ราย อยู่ต่างประเทศ โดยไม่ทราบว่าประเทศใด 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย ยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านปากออก กระทั่งเมื่อวันก่อนมีสื่อมวลชนเดินทางเข้ามาทำข่าว ทำให้แม่อุ้มบุญที่ยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านรายสุดท้าย ตัดสินใจเดินทางออกจากหมู่บ้านเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นางวิไล สุดจำลอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 9 บ้านปากออก ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธาน อสม. กล่าวว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านมีฐานะยากจน บางส่วนต้มหน่อไม้ขาย จึงทำให้หญิงในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนหนึ่งมีความเชื่อว่า การอุ้มบุญถือเป็นการสร้างบุญกุศล ทั้งยังได้เงินเป็นค่าตอบแทนมาเลี้ยงดูครอบครัว ได้ตัดสินใจเป็นแม่อุ้มบุญกันจำนวนมาก ซึ่งในหมู่บ้านยังมีอีกหลายคนที่คิดอยากทำ แต่ด้วยวัยที่ล่วงเลยเกินกว่าจะเป็นแม่อุ้มบุญได้ จึงไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีหลายคนบอกว่า หากตรวจร่างกายแล้วสามาราถเป็นแม่อุ้มบุญได้ ก็ยังอยากจะทำอยู่
ด้านนายสมยศ รอดแช่ม นายอำเภอหล่มสัก กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจรายงานข้อมูลให้ทางจังหวัดทราบ แต่พบว่าแม่อุ้มบุญไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงยังไม่สามารถพูดคุยสอบถามรายละเอียด หรือช่วยเหลืออะไรได้มากนัก.
‘>
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook